Cricket is a bat-and-ball game play

Cricket is a bat-and-ball game played between two teams of 11 players each on a field at the centre of which is a rectangular 22-yard long pitch. Each team takes its turn to bat, attempting to score runs, while the other team fields. Each turn is known as an innings.
The bowler delivers the ball to the batsman who attempts to hit the ball with his bat away from the fielders so he can run to the other end of the pitch (which is counted as one run) without getting run out (the event in which the fielder throws the ball directly onto wickets or to a player who is near to wickets so he can dislodge them from the ground before the batsman or the non-striker has reached the crease). Each batsman (the other is called non-striker) continues batting until he is out. The batting team continues batting until ten batsmen are out or specified number of overs (defined as 6 countable balls bowled) have been bowled, at which point the teams switch roles and the fielding team comes in to bat.
In professional cricket the length of a game ranges from 20 overs of six bowling deliveries per side to Test cricket played over five days. The Laws of Cricket are maintained by the International Cricket Council (ICC) and the Marylebone Cricket Club (MCC) with additional Standard Playing Conditions for Test matches and One Day Internationals.
Cricket was first played in southern England in the 16th century. By the end of the 18th century, it had developed to be the national sport of England. The expansion of the British Empire led to cricket being played overseas and by the mid-19th century the first international match was held. ICC, the game's governing body, has 10 full members. The game is most popular in Australasia, England, the Indian subcontinent, the West Indies and Southern Africa

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คริกเก็ตเป็นเกมค้างคาว และลูกเล่นระหว่างสองทีมของ 11 ผู้เล่นแต่ละรายการในเขตศูนย์กลางซึ่งเป็นสนามยาว 22 ลานสี่เหลี่ยม แต่ละทีมจะเปิดมันไป bat พยายามคะแนนทำงาน ในขณะที่ฟิลด์ทีมอื่น เรียกว่าอินนิงการเปิดแต่ละกัน
Bowler ที่ส่งลูกไป batsman ที่พยายามตีลูกกับค้างคาวของเขาจากที่ fielders เพื่อให้สามารถวิ่งไปท้ายของสนาม (ซึ่งนับเป็นหนึ่งทำ) โดยไม่มีการเรียกออก (เหตุการณ์ที่ fielder ที่ขว้างลูกบอล เข้า wickets หรือผู้เล่นที่อยู่ใกล้ wickets เพื่อให้เขาสามารถไล่ออกไปจากดิน batsman หรือที่ไม่ใช่กองหน้าได้ รอยพับตรง) Batsman ละ (อื่นคือไม่ใช่กองหน้า) ยังคงตีจนกว่าเขาจะออก ทีมตียังคงตีจนกว่าสิบ batsmen จะออก หรือมีการ ช็อกจำนวนไกล (กำหนดเป็น 6 ลูกนับได้ช็อก) จุดที่ทีมสลับบทบาท และทีม fielding มาในค้างคาว
คริกเก็ตในระดับมืออาชีพความยาวของเกมช่วงจากไกล 20 ของหกส่งโบว์ลิ่งแต่ละด้านเพื่อทดสอบคริกเก็ตเล่นมากกว่าห้าวัน กฎหมายคริกเก็ตถูกดูแล โดยสภาคริกเก็ตนานาชาติ (ICC) และโซโหคริกเก็ต Club (MCC) พร้อมเงื่อนไขเพิ่มเติมมาตรฐานเล่นสำหรับแข่งขันทดสอบ Internationals วันหนึ่ง
คริกเก็ตครั้งแรกที่เล่นในประเทศอังกฤษในศตวรรษ 16 โดยตอนท้ายของศตวรรษ 18 มันได้พัฒนาเป็น กีฬาแห่งชาติของอังกฤษ การขยายตัวของจักรวรรดิอังกฤษที่นำไปสู่คริกเก็ตการเล่นต่างประเทศ และจัดขึ้น โดยช่วงกลาง 19 ศตวรรษกับนานาชาติ ICC ร่างกายควบคุมของเกม มีสมาชิกเต็ม 10 เกมเป็นที่นิยมมากที่สุดใน Australasia อังกฤษ ในอนุทวีปอินเดีย หมู่เกาะอินเดียตะวันตกและแอฟริกาใต้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คริกเก็ตเป็นเกมค้างคาวและลูกที่เล่นระหว่างสองทีมจาก 11 ผู้เล่นแต่ละคนในสนามที่ศูนย์ซึ่งเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า 22 หลาสนามยาว แต่ละทีมจะใช้เวลาในการเปิดค้างคาวพยายามที่จะดำเนินการให้คะแนนในขณะที่สาขาที่ทีมอื่น ๆ ทางกลับกันเป็นที่รู้จักกันเป็นโอกาส
กะลาจ่ายบอลให้กับลูกที่พยายามที่จะตีลูกกับค้างคาวของเขาออกไปจากทะโมนเพื่อให้เขาสามารถวิ่งไปที่ปลายอีกด้านหนึ่งของสนาม (ซึ่งนับเป็นหนึ่งในการทำงาน) โดยไม่ได้รับ วิ่งออกไป (ซึ่งเหตุการณ์ในวิมุตติโยนลูกบอลโดยตรง wickets หรือกับผู้เล่นที่อยู่ใกล้กับ wickets เพื่อให้เขาสามารถขับไล่พวกเขาออกจากพื้นก่อนที่ลูกบอลหรือหยุดงานไม่ได้ถึงรอยพับ) แต่ละลูก (ที่เรียกว่าไม่มีกองหน้า) ยังคงปัดจนกว่าเขาจะออก ทีมบอลยังคงแม่นจนถึงสิบ batsmen จะออกหรือจำนวนที่ระบุของแจ็คเก็ต (หมายถึง 6 ลูกนับช็อก) ได้รับการช็อกจุดที่ทั้งสองทีมสลับบทบาทและทีมงานฝ่ายมาในค้างคาว
ในคริกเก็ตมืออาชีพความยาวของ เกมช่วง 20 แจ็คเก็ตหกโบว์ลิ่งการส่งมอบต่อทางด้านการทดสอบจากคริกเก็ตที่เล่นในช่วงห้าวัน กฎหมายของคริกเก็ตที่มีการรักษาโดยริกเก็ตนานาชาติ (ICC) และโบนคริกเก็ตคลับ (MCC) ที่มีการเพิ่มมาตรฐานการเล่นตรงกับเงื่อนไขในการทดสอบและวันหนึ่งนานาชาติ
คริกเก็ตเป็นครั้งแรกที่เล่นในภาคใต้ของประเทศอังกฤษในศตวรรษที่ 16 ในตอนท้ายของศตวรรษที่ 18 ที่จะมีการพัฒนาให้เป็นกีฬาประจำชาติของอังกฤษ การขยายตัวของจักรวรรดิอังกฤษที่นำไปสู่การเล่นคริกเก็ตในต่างประเทศและโดยศตวรรษที่ 19 การแข่งขันระดับนานาชาติครั้งแรกที่จัดขึ้น ICC, การปกครองของเกมมี 10 สมาชิกเต็มรูปแบบ เกมเป็นที่นิยมมากที่สุดในประเทศออสเตรเลีย, อังกฤษ, ชมพูทวีป, หมู่เกาะอินเดียตะวันตกและภาคใต้ของแอฟริกา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คริกเก็ตเป็นค้างคาวและลูก เกมที่เล่นระหว่างสองทีมจาก 11 ผู้เล่นในแต่ละสนามที่ศูนย์ซึ่งเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว 22 หลา ที่สนาม แต่ละทีมจะเปิดตัวกับค้างคาว , พยายามที่จะวิ่งคะแนน ในขณะที่ด้านอื่น ๆของทีม เปิดแต่ละที่เป็นที่รู้จักกันเป็นโอกาส .
กะลาส่งบอลให้ลูกบอลที่พยายามที่จะตีลูกบอลด้วยไม้ของเขาห่างจากทะโมนเพื่อให้เขาสามารถวิ่งถึงท้ายสนาม ( ซึ่งก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งวิ่ง ) โดยไม่ได้หมด ( เหตุการณ์ที่วิมุตติพ่นลูกโดยตรงบน wickets หรือผู้เล่นที่ใกล้ เพื่อให้เขาสามารถขจัดพวกเขาจาก wickets ลงก่อนตี หรือที่ไม่ใช่กองหน้าได้รอยพับ )ผู้ตีลูกบอล ( แต่ละอื่น ๆเรียกว่า ไม่ใช่กองหน้า ) ยังคงมั่น จนกว่าเขาจะออกมา ทีมบอลที่ยังคงมั่นถึงสิบ batsmen ออก หรือตามจำนวนที่ระบุ ( เช่น 6 พากย์ได้ลูกบอลขว้าง ) มีกลิ้งที่จุดทีมสลับบทบาท และชื่อทีมมา
ค้างคาวในกีฬาคริกเก็ตมืออาชีพความยาวของช่วงเกมจาก 20 กว่าหกโบว์ลิ่งจัดส่งต่อด้านข้างเพื่อทดสอบจิ้งหรีดเล่นเกิน 5 วัน กฎของจิ้งหรีดดูแลโดยสภาคริกเก็ตนานาชาติ ( ICC ) และคริกเก็ตคลับ Marylebone ( MCC ) กับมาตรฐานเพิ่มเติมเงื่อนไขการเล่นสำหรับการแข่งขันและทดสอบภายในวันเดียว
คริกเก็ตเป็นครั้งแรกที่เล่นในอังกฤษในศตวรรษที่ 16 ในตอนท้ายของศตวรรษที่ 18 ได้มีการพัฒนาเป็นกีฬาประจำชาติของอังกฤษ การขยายตัวของจักรวรรดิอังกฤษนำไปสู่จิ้งหรีดที่กำลังเล่นจากต่างประเทศ และจากกลางศตวรรษที่ 19 การแข่งขันระดับนานาชาติครั้งแรกได้จัดขึ้น ICC , เกมของการปกครอง มีสมาชิก 10 เต็ม เป็นเกมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในออสเตรเลีย อังกฤษอนุทวีปอินเดีย , West Indies และภาคใต้แอฟริกา