In 2011, Cornelissen and colleagues

In 2011, Cornelissen and colleagues conducted a meta-analysis on the BP lowering effects of resistance training[48]. Pooling data from 28 randomized controlled trials, resistance training resulted in a net decrease of 3.9 mmHg and 3.9 mmHg for systolic and diastolic BP, respectively, in normotensive/prehypertensive participants. In their updated meta-analysis, Cornelissen and colleagues stratified the effects of resistance training on BP according to BP subgroup (e.g. normotensive or prehypertensive) and reported that the net effect of resistance training on BP was significant for systolic and diastolic BP among prehypertensives, but was only significant for diastolic BP among normotensives[45]. Recently, it has been argued by Rossi and colleagues that the results from Cornelissen et al. may have overestimated the effect sizes of resistance training on BP due to inclusion of studies in which BP was not the primary end point[49]. Conducting their own meta-analysis, Rossi et al. identified 11 randomized control trials wherein BP was the primary outcome. Among normotensives and prehypertensives they reported that the net effect of resistance training was significant for diastolic BP (net effect: −2.4 mmHg), but not systolic BP (net effect: −1.5 mmHg)[50]. Although these findings diverge in the net BP lowering effects of resistance training from the findings of Corenelissen and colleagues, they nonetheless are consistent in showing that, one, there is no detrimental effect of resistance training on BP as once previously proposed[51], and two, resistance training may be beneficial in eliciting reductions in diastolic BP amongst normotensives and prehypertensives. Contrary to the limited evidence from prospective studies, the data from randomized controlled trials do support a role for resistance training in the prevention of hypertension. Reasons for the discrepant evidence from prospective studies and randomized controlled trials are still unclear, but may, in part, be attributed to the limitations of current prospective studies including the use of self-report data[27] and multicollinearity among exposure variables[42].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใน 2011, Cornelissen และร่วมดำเนินการ meta-analysis ใน BP ลดผลกระทบของความต้านทานในการฝึกอบรม [48] รวมข้อมูลจากการทดลองแบบสุ่มควบคุม 28 ฝึกผลสุทธิลดลง 3.9 mmHg และ 3.9 mmHg สำหรับ systolic และ diastolic BP ตามลำดับ ในผู้เข้าร่วม normotensive/prehypertensive ในการปรับปรุงวิเคราะห์ Cornelissen และเพื่อนร่วมงาน stratified ผลของการฝึกใน BP ตามกลุ่มย่อยของ BP (เช่น normotensive หรือ prehypertensive) และรายงานว่า ผลสุทธิของการฝึกใน BP อย่างมีนัยสำคัญสำหรับ systolic และ diastolic BP ระหว่าง prehypertensives แต่เฉพาะสำคัญสำหรับ diastolic BP ในหมู่ normotensives [45] เมื่อเร็ว ๆ นี้ มันมีการโต้เถียง โดย Rossi และเพื่อนร่วมงานว่า ผลจาก Cornelissen et al.อาจมี overestimated ขนาดผลของการฝึกใน BP เนื่องจากรวมการศึกษาที่ BP ไม่ได้จุดสิ้นสุดหลัก [49] ทำการวิเคราะห์ตนเอง Rossi et al.ระบุประเด็น BP เป็นหลักผลทดลองควบคุมสุ่ม 11 Normotensives และ prehypertensives พวกเขารายงานว่า ผลสุทธิของการฝึกไม่สำคัญสำหรับ diastolic BP (ผลกระทบสุทธิ: −2.4 mmHg), แต่ไม่ systolic BP (ผลกระทบสุทธิ: −1.5 mmHg) [50] แม้ว่าการค้นพบเหล่านี้ปมากใน BP สุทธิที่ลดผลกระทบของการฝึกอบรมความต้านทานจากผลการวิจัยของ Corenelissen และเพื่อนร่วมงาน ก็จะสอดคล้องกันในการแสดง ที่หนึ่ง มีไม่มีผลอันตรายของการฝึกใน BP เป็นเสนอครั้งเดียวก่อนหน้านี้ [51], และ 2 การฝึกอาจเป็นประโยชน์ใน eliciting ลด diastolic BP normotensives และ prehypertensives ขัดกับหลักฐานที่จำกัดจากการศึกษาอนาคต ข้อมูลจากการทดลองแบบสุ่มควบคุมสนับสนุนบทบาทสำหรับการฝึกอบรมความต้านทานในการป้องกันความดันโลหิตสูง เหตุผลหลักฐาน discrepant จากอนาคตศึกษาและการทดลองแบบสุ่มควบคุมยังไม่ชัดเจน แต่อาจ ในส่วน นำมาประกอบกับข้อจำกัดของการศึกษาปัจจุบันอนาคตรวมถึงการใช้ข้อมูลรายงานตนเอง [27] และ multicollinearity ในหมู่แสงตัวแปร [42]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปี 2011 Cornelissen และเพื่อนร่วมงานได้ทำการวิเคราะห์เมตาใน BP ลดผลกระทบของการฝึกอบรมความต้านทาน [48] การรวมข้อมูลจาก 28 ทดลองควบคุมแบบสุ่ม, ฝึกอบรมความต้านทานผลในการลดลงสุทธิ 3.9 มิลลิเมตรปรอทและ 3.9 มิลลิเมตรปรอทสำหรับ systolic และ diastolic BP ตามลำดับในผู้เข้าร่วมโลหิตปกติ / prehypertensive ในการปรับปรุง meta-analysis ของพวกเขา Cornelissen และเพื่อนร่วมงานแบ่งผลกระทบของการฝึกอบรมความต้านทานใน BP ตาม BP กลุ่มย่อย (เช่นโลหิตปกติหรือ prehypertensive) และรายงานว่าผลสุทธิของการฝึกอบรมความต้านทานใน BP อย่างมีนัยสำคัญสำหรับ systolic และ diastolic BP หมู่ prehypertensives แต่ เป็นเพียงที่สำคัญสำหรับความดันโลหิต diastolic หมู่ normotensives [45] เมื่อเร็ว ๆ นี้จะได้รับการถกเถียงกันอยู่โดยรอสซีและเพื่อนร่วมงานที่เป็นผลมาจาก Cornelissen et al, อาจจะเกินขนาดผลของการฝึกอบรมความต้านทานใน BP จากการรวมของการศึกษาที่ BP ไม่ได้เป็นจุดสิ้นสุดหลัก [49] การดำเนินการของตัวเอง meta-analysis ของพวกเขารอสซี, et al ระบุ 11 การทดลองควบคุมแบบสุ่มนั้น BP เป็นผลหลัก ท่ามกลาง normotensives และ prehypertensives พวกเขารายงานว่าผลสุทธิของการฝึกอบรมความต้านทานอย่างมีนัยสำคัญสำหรับ diastolic BP (ผลกระทบสุทธิ: -2.4 mmHg) แต่ไม่ systolic BP (ผลกระทบสุทธิ: -1.5 mmHg) [50] แม้ว่าการค้นพบนี้แตกต่างในสุทธิลดความดันโลหิตผลของการฝึกการต่อต้านจากผลการวิจัยของ Corenelissen และเพื่อนร่วมงานที่พวกเขายังคงมีความสอดคล้องกันในการแสดงให้เห็นว่าหนึ่งไม่มีผลกระทบต่อการฝึกอบรมความต้านทานใน BP เสนอเป็นครั้งเดียวก่อนหน้านี้ [51] และ สองฝึกอบรมความต้านทานอาจจะเป็นประโยชน์ในการลดการดึงความดันโลหิต diastolic ในหมู่ normotensives และ prehypertensives ขัดกับหลักฐานที่ จำกัด จากการศึกษาในอนาคตข้อมูลจากการทดลองควบคุมแบบสุ่มไม่สนับสนุนบทบาทสำหรับการฝึกอบรมความต้านทานในการป้องกันความดันโลหิตสูงได้ เหตุผลที่หลักฐานไม่ตรงกันจากการศึกษาในอนาคตและทดลองควบคุมแบบสุ่มยังไม่ชัดเจน แต่อาจในส่วนที่นำมาประกอบกับข้อ จำกัด ของการศึกษาในอนาคตในปัจจุบันรวมถึงการใช้ของข้อมูลรายงานตนเอง [27] ​​และพหุสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรการสัมผัส [42] ที่ .

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ใน 2011 , cornelissen และเพื่อนร่วมงานทำการอภิวิเคราะห์ผลในการลดความดันโลหิตของการฝึกอบรมความต้านทาน [ 48 ] การสุ่มข้อมูลจาก 28 การทดลองการฝึกอบรมความต้านทานที่ส่งผลให้เกิดการลดลงสุทธิ 3.9 มิลลิเมตรปรอทและ 3.9 มิลลิเมตรปรอทสำหรับ systolic และ diastolic BP , ตามลำดับ , เตต / prehypertensive ผู้เข้าร่วม ในการปรับปรุง cornelissen อภิมาน และเพื่อนร่วมงาน และผลของการฝึกอบรมความต้านทานใน BP ตามกลุ่มย่อย เช่น เตต BP หรือ prehypertensive ) และรายงานผลสุทธิของการฝึกอบรมความต้านทานใน systolic และ diastolic BP อย่างมีนัยสำคัญสำหรับ BP ของ prehypertensives แต่เป็นเพียงการคลายตัวของ BP normotensives [ 45 ] เมื่อเร็ว ๆนี้จะได้รับการถกเถียงกันอยู่ โดย รอสซี และเพื่อนร่วมงานว่า ผลลัพธ์จาก cornelissen et al . อาจจะประเมินค่าผลขนาดของการฝึกอบรมความต้านทานใน BP เนื่องจากการรวมของการศึกษาซึ่งใน BP ไม่ใช่จุดยุติปฐมภูมิ [ 49 ] ดำเนินการในการวิเคราะห์ตนเอง รอสซี่ et al . ควบคุมการทดลองสุ่มระบุ 11 ซึ่งเบสผลหลัก ระหว่าง normotensives prehypertensives และเขาได้รายงานว่า ผลสุทธิของการฝึกอบรมความต้านทานอย่างมีนัยสำคัญสำหรับ diastolic BP ( ผลกระทบสุทธิ− 2.4 มิลลิเมตรปรอท ) แต่ไม่ systolic BP ( ผลกระทบสุทธิ− 1.5 มิลลิเมตรปรอท ) [ 50 ] แม้ว่าการค้นพบเหล่านี้แตกต่างในสุทธิ BP ลดผลของการฝึกอบรมความต้านทาน จากผลการวิจัยของ corenelissen และเพื่อนร่วมงานพวกเขากระนั้นมีความสอดคล้องกันในการแสดงว่า หนึ่ง ไม่มีผลอันตรายของการฝึกอบรมความต้านทานใน BP เป็นเมื่อแต่ก่อนเสนอ [ 51 ] , และสอง , การฝึกอบรมความต้านทานที่อาจเป็นประโยชน์ในการ eliciting diastolic BP ท่ามกลาง และ normotensives prehypertensives . ตรงกันข้ามกับหลักฐานที่ จำกัด จากข้อมูลการศึกษา ข้อมูลจากการทดลองควบคุมแบบสุ่ม ไม่สนับสนุนบทบาทการฝึกอบรมความต้านทานในการป้องกันโรคความดันโลหิตสูง เหตุผลสำหรับหลักฐานที่แตกต่างกันจากอนาคตการศึกษาและสุ่มทดลอง ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่อาจในส่วนหนึ่งเกิดจากข้อจำกัดของการศึกษาที่คาดหวังในปัจจุบัน รวมทั้งการใช้รายงานข้อมูล [ 27 ] และสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรการเปิดรับ [ 42 ]