Pre-schoolIn Sweden, förskola (pre-

Pre-school
In Sweden, förskola (pre-school) is provided by municipalities for children ages one to five. The amount of municipal subsidy for pre-school depends on the child’s age and whether the parents work, study, are unemployed or on parental leave for other children.
Swedish pre-school emphasises the importance of play in a child’s development, with a curriculum aiming to ensure children’s individual needs and interests. Gender-aware education is increasingly common, striving to provide children with the same opportunities in life regardless of gender.
A year before the first year
All children are guaranteed a place in a one-year förskoleklass (‘pre-school year’) starting in the fall term of the year they turn six until they start compulsory schooling.
This year is designed to stimulate each child’s development and learning, and provide a platform for their future schooling. Although förskoleklass is non-compulsory, almost all children in Sweden attend it.


Compulsory schooling
Swedish compulsory schooling consists of three stages: lågstadiet (years 1–3), followed by mellanstadiet (years 4–6) and then högstadiet (years 7–9). Children between ages 6 and 13 are also offered out-of-school care before and after school hours.
Compulsory education also includes sameskolor (Sami schools) for children of the indigenous Sami people.

Upper secondary school
Gymnasium (upper secondary school or high school, years 10–12) is optional. There are 18 regular national programmes of 3 years to choose from, 6 of which are preparatory for higher education such as university, and 12 of which are vocational.
While entrance requirements vary between programmes, all of them demand students to have passing grades in Swedish, English and mathematics from their final year of compulsory schooling.
In 2014, 13 per cent of Swedish 9-year students did not have the grades to qualify for a national programme; however, instead of national programmes, these students have five so-called introductory programmes to choose from. From these introductory programmes, students can then move on to a national programme.
There are also upper secondary schools for people with intellectual disabilities as well as programme variations targeting for example athletes.
In 2014, roughly 88 per cent of upper secondary students received a leaving qualification (diploma).


Benchmarking internationally
The quality of Swedish education has been keenly debated over the past decade, following declining results among Swedish students in international comparisons. Sweden has moved to improve perfomances and to raise the status of the teaching profession for long-term benefits.
International studies such as Programme for International Student Assessment (PISA) and Trends in International Mathematics and Science Study (TIMSS) have indicated a deteriorating performance among Swedish children in recent years.
Most recently, the Organisation for Economic Co-operation and Development (OECD), which is behind the PISA assessment, followed up on the trends in May 2015 with a detailed review of Sweden’s educational quality.
The study, done on the request of the Swedish Government, confirms that Sweden needs to improve the quality of education and in particular raise the performance level of students in reading, math and science. This can be seen in light of Sweden investing a larger share of its GDP on education (6.8 per cent) compared with the OECD average (5.6 per cent) in 2014.
Recent reforms
The relevance of the PISA studies has been questioned by educators and policy makers both in Sweden and abroad. Critics of the standardised tests argue that the studies are too focused on math and science, and altogether exclude areas of education that stimulate personal growth, morality and creativity.
Nevertheless, while the discussion between critics and defenders of PISA continues, the Swedish Government is looking for ways to improve the education system. It has looked particularly at neighbours Finland but also at South Korea, where teachers’ salaries are higher, and at the Netherlands, where class sizes are typically smaller.
Several reforms have been implemented over the last few years, aimed at improving student results and raising the status of the teaching profession:
New education act
The new Swedish Education Act of 2011 contains basic principles and provisions for compulsory and further education, pre-school, pre-school year, out-of-school care and adult education. It promotes greater oversight, freedom of choice, and student safety and security.
New curricula
New consolidated curricula for compulsory schools for all students, Sami schools, special schools and upper secondary schools came into force 1 July 2011. The curricula contain new general goals, guide¬lines and syllabuses. The pre-school curriculum includes clearer goals for children’s linguistic and communicative develop¬ment and for science and technology. Mandatory national subject tests are held in years 3

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ก่อนวัยเรียนสวีเดน förskola (ก่อนวัยเรียน) จะมาจากเทศบาลสำหรับเด็กอายุ 1-5 จำนวนเทศบาลช่วยเหลือโรงเรียนก่อนขึ้นอยู่กับอายุและสภาพของลูกว่าพ่อแม่ทำงาน เรียน ว่างงาน หรือในผู้ปกครองปล่อยให้เด็กอื่น ๆก่อนวัยเรียนสวีเดนเน้นความสำคัญของการเล่นในการพัฒนาเด็ก มีหลักสูตรมุ่งให้เด็กแต่ละคนและความสนใจ การศึกษาคำนึงถึงอยู่ทั่วไปมากขึ้น เพื่อให้เด็ก มีโอกาสเดียวในชีวิตโดยไม่คำนึงถึงเพศปีก่อนปีแรกเด็กทั้งหมดมีรับประกันที่ใน förskoleklass หนึ่งปี ('โรงเรียนก่อนปี') เริ่มต้นในระยะฤดูใบไม้ร่วงของปีอายุ 6 จนกระทั่งพวกเขาเริ่มบังคับศึกษาปีนี้ถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการพัฒนาและเรียนรู้ของเด็กแต่ละคน และมสำหรับการศึกษาในอนาคต แม้ว่า förskoleklass จะไม่บังคับ เด็กเกือบทั้งหมดในสวีเดนเข้าร่วมได้การศึกษาภาคบังคับศึกษาภาคบังคับที่สวีเดนประกอบด้วยขั้นตอนที่ 3: lågstadiet (ปี 1-3), ตาม ด้วย mellanstadiet (ปี 4-6) และ högstadiet (ปี 7-9) เด็กอายุ 6 และ 13 ระหว่างตำแหน่งที่ดูแลออกของโรงเรียนก่อน และ หลังชั่วโมงเรียนการศึกษาภาคบังคับรวมถึง sameskolor (Sami โรงเรียน) สำหรับเด็กของชน Samiโรงเรียนมัธยมปลายโรงยิม (โรงเรียนมัธยมปลายหรือมัธยมปลาย 10 – 12 ปี) ไม่จำเป็น มี 18 โครงการระดับประเทศประจำปี 3 ให้เลือก 6 ซึ่งจะเหมาะสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัย และ 12 ซึ่งมีอาชีพเข้าความแตกต่างระหว่างโครงการ ทุกความต้องการนักศึกษาสามารถผ่านเกรดในภาษาสวีเดน ภาษาอังกฤษ และคณิตศาสตร์จากการปีสุดท้ายของการศึกษาภาคบังคับในปี 2014, 13 ร้อยละของนักเรียน 9 ปีสวีเดนไม่มีเกรดจะมีคุณสมบัติสำหรับโปรแกรมแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม แทนโครงการแห่งชาติ นักเรียนเหล่านี้มีห้าเรียกว่าแนะนำโปรแกรมให้เลือก จากโครงการเหล่านี้เบื้องต้น นักเรียนสามารถแล้วโปรแกรมแห่งการไปมีโรงเรียนมัธยมด้านบนสำหรับคนที่มีความพิการทางปัญญารวมทั้งรูปแบบโครงการที่กำหนดเป้าหมายเช่นนักกีฬาในปี 2014 ประมาณร้อยละ 88 ของมัธยมบนรับคุณสมบัติออก (ประกาศนียบัตร)การเปรียบเทียบระดับนานาชาติคุณภาพการศึกษาสวีเดนได้รับมีความถกเถียงกว่าทศวรรษที่ผ่านมา ต่อผลลดลงในหมู่นักเรียนเปรียบเทียบระหว่างประเทศสวีเดน สวีเดนได้ย้าย เพื่อให้ perfomances และ เพื่อยกระดับสถานะของอาชีพสอนผลประโยชน์ระยะยาวนานาชาติศึกษาเป็นโปรแกรมสำหรับการประเมินนักเรียนนานาชาติ (PISA) และแนวโน้มในนานาชาติคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ศึกษา (TIMSS) ระบุประสิทธิภาพขาด ๆ ในหมู่เด็กสวีเดนในปีสุด ที่องค์การร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD), ที่อยู่เบื้องหลังการประเมิน PISA หลังเทรนด์พฤษภาคม 2015 ทบทวนรายละเอียดของคุณภาพการศึกษาของสวีเดนการศึกษา ทำตามคำขอของรัฐบาลสวีเดน ยืนยันว่า สวีเดนต้องการปรับปรุงคุณภาพการศึกษา และโดยเฉพาะในยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของนักเรียนในการอ่าน คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ นี้สามารถเห็นได้ชัดเจนในแง่การลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ของของ GDP การศึกษา (ร้อยละ 6.8) เปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ย OECD (ร้อยละ 5.6) ในสวีเดนล่าสุดการปฏิรูปความเกี่ยวข้องของการศึกษา PISA ได้ถูกสอบสวน โดยนักการศึกษาและผู้กำหนดนโยบายทั้ง ในสวีเดนและต่างประเทศ นักวิจารณ์ของการทดสอบมาตรฐานยืนยันว่า การศึกษาต้องการเกินไปเน้นคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และทั้งหมด ยกเว้นพื้นที่ของการศึกษาที่กระตุ้นการเจริญเติบโตส่วนบุคคล ศีลธรรม และความคิดสร้างสรรค์อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ยังคงการสนทนาระหว่างนักวิจารณ์และป้อมปราการของปิซา รัฐบาลสวีเดนที่กำลังมองหาวิธีการปรับปรุงระบบการศึกษา มันได้ดูโดยเฉพาะเพื่อนบ้านฟินแลนด์ แต่ยัง ที่ประเทศ เกาหลีใต้ เงินเดือนครูสูง และ เนเธอร์แลนด์ ที่เรียนมีขนาดเล็กโดยทั่วไปปฏิรูปหลายมีการดำเนินการมากกว่าปีที่ผ่านมา เพื่อปรับปรุงผลการเรียน และยกระดับสถานะของอาชีพสอน:พระราชบัญญัติการศึกษาใหม่พระราชบัญญัติการศึกษาใหม่สวีเดน 2011 ประกอบด้วยหลักการพื้นฐานและข้อบังคับและการศึกษาเพิ่มเติม โรงเรียนล่วงหน้า ปีเตรียมประถม ดูแลออกของโรงเรียน และการศึกษาผู้ใหญ่ ส่งเสริมกำกับดูแลมากขึ้น เสรีภาพในการ เลือก และนักเรียน ความปลอดภัยหลักสูตรใหม่หลักสูตรรวมใหม่สำหรับโรงเรียนภาคบังคับสำหรับนักเรียน โรงเรียน Sami โรงเรียนพิเศษ และโรงเรียนมัธยมด้านบนมาใช้บังคับ 1 2554 กรกฎาคม หลักสูตรประกอบด้วยเป้าหมายทั่วไปใหม่ guide¬lines และ syllabuses หลักสูตรเตรียมประถมมีเป้าหมายที่ชัดเจน สำหรับเด็ก develop¬ment ภาษาศาสตร์ และการสื่อสาร และวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทดสอบเรื่องชาติบังคับจัดขึ้นปี 3

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ก่อนวัยเรียน
ในสวีเดนförskola (Pre-School) เป็นผู้ให้บริการในเขตเทศบาลเหมาะสำหรับเด็กอายุ 1-5 ปริมาณของเงินอุดหนุนเทศบาลสำหรับโรงเรียนก่อนขึ้นอยู่กับอายุของเด็กและไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ทำงาน, การศึกษา, ว่างงานหรือลาผู้ปกครองสำหรับเด็กคนอื่น ๆ .
สวีเดนก่อนวัยเรียนเน้นความสำคัญของการเล่นในการพัฒนาของเด็กที่มีหลักสูตรเล็ง เพื่อให้แน่ใจว่าแต่ละความต้องการของเด็กและความสนใจ การศึกษาเพศทราบเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นมุ่งมั่นที่จะให้เด็กที่มีโอกาสเดียวในชีวิตไม่คำนึงถึงเพศ.
ปีก่อนปีแรก
เด็กทุกคนได้รับการรับรองสถานที่ในförskoleklassหนึ่งปี (ก่อนวัยเรียนปี) เริ่มต้นใน ระยะฤดูใบไม้ร่วงของปีที่พวกเขาเปิดหกจนกว่าพวกเขาจะเริ่มต้นการศึกษาภาคบังคับ.
ปีนี้ถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการพัฒนาของเด็กแต่ละคนและการเรียนรู้และให้เป็นเวทีสำหรับการศึกษาอนาคตของพวกเขา แม้ว่าförskoleklassไม่บังคับเด็กเกือบทั้งหมดในสวีเดนเข้าร่วมมัน. การศึกษาภาคบังคับสวีเดนศึกษาภาคบังคับประกอบด้วยสามขั้นตอน: lågstadiet (1-3 ปี) ตามด้วย mellanstadiet (4-6 ปี) และจากนั้นhögstadiet (ปีที่ 7-9 ) เด็กอายุระหว่าง 6 และ 13 นอกจากนี้ยังมีการดูแลออกจากโรงเรียนก่อนและหลังชั่วโมงเรียน. การศึกษาภาคบังคับยังรวมถึง sameskolor (โรงเรียน Sami) สำหรับเด็กของคนเซพื้นเมือง. มัธยมศึกษาตอนปลายโรงยิม (มัธยมศึกษาตอนปลายหรือมัธยม ปี 10-12) เป็นตัวเลือก มี 18 โปรแกรมประจำชาติ 3 ปีให้เลือก 6 ที่มีการเตรียมความพร้อมสำหรับการศึกษาที่สูงขึ้นเช่นมหาวิทยาลัยและ 12 ซึ่งเป็นกำลังอาชีวศึกษา. ในขณะที่ข้อกำหนดในการเข้าแตกต่างกันระหว่างโปรแกรมทั้งหมดของพวกเขาเรียกร้องให้นักเรียนที่จะต้องผ่านการเรียนในสวีเดน ., ภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์จากปีสุดท้ายของการศึกษาภาคบังคับในปี 2014 ร้อยละ 13 ของนักเรียนสวีเดน 9 ปีไม่ได้มีผลการเรียนจะมีคุณสมบัติสำหรับโครงการระดับชาติ; แต่แทนที่จะโครงการระดับชาติ, นักเรียนเหล่านี้มีห้าเรียกว่าโปรแกรมเบื้องต้นที่จะเลือกจาก จากโปรแกรมเบื้องต้นเหล่านี้จากนั้นนักเรียนสามารถย้ายไปยังโครงการระดับชาติ. มีโรงเรียนมัธยมยังด้านบนสำหรับคนที่มีความพิการทางปัญญาเช่นเดียวกับรูปแบบโปรแกรมการกำหนดเป้าหมายสำหรับนักกีฬาตัวอย่าง. ในปี 2014 ประมาณร้อยละ 88 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายต่อที่ได้รับการออก วุฒิการศึกษา (ประกาศนียบัตร). การเปรียบเทียบระดับนานาชาติคุณภาพการศึกษาของสวีเดนได้รับการถกเถียงอย่างดีที่สุดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาต่อไปผลที่ลดลงในหมู่นักเรียนสวีเดนในการเปรียบเทียบระหว่างประเทศ สวีเดนได้ย้ายไปปรับปรุง perfomances และจะยกฐานะของวิชาชีพการเรียนการสอนเพื่อประโยชน์ในระยะยาว. การศึกษาระหว่างประเทศเช่นหลักสูตรสำหรับการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (PISA) และแนวโน้มในวิชาคณิตศาสตร์ระหว่างประเทศและการศึกษาวิทยาศาสตร์ (TIMSS) ได้ชี้ให้เห็นประสิทธิภาพการทำงานที่ทวีความรุนแรงขึ้นในหมู่ เด็กสวีเดนในปีที่ผ่านมา. ส่วนใหญ่เมื่อเร็ว ๆ นี้องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการ พัฒนา (OECD) ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการประเมิน PISA ตามขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มพฤษภาคม 2015 ที่มีการทบทวนรายละเอียดของคุณภาพการศึกษาของสวีเดน. การศึกษาทำ ตามคำขอของรัฐบาลสวีเดนสวีเดนยืนยันว่าต้องการที่จะปรับปรุงคุณภาพของการศึกษาและยกระดับประสิทธิภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งของนักเรียนในการอ่านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ นี้สามารถเห็นได้ในแง่ของสวีเดนลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ของจีดีพีในการศึกษา (ร้อยละ 6.8) เมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศ OECD เฉลี่ย (ร้อยละ 5.6) ในปี 2014 การปฏิรูปล่าสุดความเกี่ยวข้องของการศึกษาของ PISA ได้รับการสอบสวนโดยนักการศึกษาและนโยบาย ผู้ผลิตทั้งในและต่างประเทศสวีเดน นักวิจารณ์ของการทดสอบมาตรฐานยืนยันว่าการศึกษาจะเน้นเกินไปในวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์และทั้งหมดยกเว้นพื้นที่ของการศึกษาที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตส่วนบุคคลคุณธรรมและความคิดสร้างสรรค์. อย่างไรก็ตามในขณะที่การสนทนาระหว่างนักวิจารณ์และป้อมปราการเมืองปิซายังคงมีรัฐบาลสวีเดนที่กำลังมองหา หาวิธีการปรับปรุงระบบการศึกษา มันได้มองเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเพื่อนบ้านฟินแลนด์ แต่ยังอยู่ในเกาหลีใต้ที่เงินเดือนครูสูงและในเนเธอร์แลนด์ที่ชั้นเรียนขนาดโดยทั่วไปจะมีขนาดเล็ก. การปฏิรูปหลายคนได้รับการดำเนินการในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามุ่งเป้าไปที่การปรับปรุงผลของนักเรียนและการเลี้ยง สถานะของวิชาชีพครูที่: พระราชบัญญัติการศึกษาใหม่ใหม่พระราชบัญญัติการศึกษาสวีเดนของปี 2011 มีหลักการพื้นฐานและการตั้งสำรองสำหรับภาคบังคับและเพิ่มเติมการศึกษาก่อนวัยเรียนโรงเรียนก่อนปีออกจากโรงเรียนการดูแลและการศึกษาผู้ใหญ่ มันส่งเสริมการกำกับดูแลมากขึ้นเสรีภาพในการเลือกและความปลอดภัยของนักเรียนและความปลอดภัย. ใหม่หลักสูตรหลักสูตรรวมใหม่สำหรับโรงเรียนภาคบังคับสำหรับนักเรียนทุกโรงเรียนเซโรงเรียนพิเศษและโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายเข้ามาบังคับวันที่ 1 กรกฎาคม 2011 หลักสูตรประกอบด้วยเป้าหมายทั่วไปใหม่ guide¬linesและหลักสูตร หลักสูตรก่อนวัยเรียนมีเป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับเด็กdevelop¬mentภาษาและการสื่อสารและวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี บังคับทดสอบเรื่องระดับชาติที่จะมีขึ้นในปีที่ 3