The problem of defective parts is s

The problem of defective parts is solved by striving for zero defects. Because JIT manufacturing
does not rely on inventories to replace defective parts or materials, the emphasis
on quality for both internally produced and externally purchased materials increases significantly. The outcome is impressive: the number of rejected parts tends
to fall by 75–90 percent. Decreasing defective parts also diminishes the justification for
inventories based on unreliable processes

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปัญหาของชิ้นส่วนที่บกพร่องสามารถแก้ไขได้ ด้วยความมุ่งมั่นสำหรับข้อบกพร่องเป็นศูนย์ เนื่องจากผลิต JITไม่พึ่งพาสินค้าแทนชิ้นส่วนที่บกพร่อง หรือวัสดุ เน้นคุณภาพทั้งผลิตภายใน และภายนอกซื้อวัสดุเพิ่มมากขึ้น ผลเป็นที่น่าประทับใจ: มีแนวโน้มที่จำนวนของชิ้นส่วนที่ถูกปฏิเสธจะลดลงจากร้อยละ 75 – 90 นอกจากนี้ยังลดชิ้นส่วนที่บกพร่องลดเหตุผลของการสินค้าคงเหลือตามกระบวนการที่น่าเชื่อถือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปัญหาที่เกิดจากชิ้นส่วนที่ชำรุดได้รับการแก้ไขโดยมุ่งมั่นในการศูนย์ข้อบกพร่อง เพราะการผลิต JIT
ไม่พึ่งพาสินค้าคงเหลือที่จะเปลี่ยนชิ้นส่วนที่ชำรุดหรือวัสดุที่เน้น
ในคุณภาพสำหรับการผลิตภายในและภายนอกซื้อวัสดุที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ผลเป็นที่น่าประทับใจ: จำนวนของชิ้นส่วนที่ปฏิเสธที่จะมีแนวโน้มที่
จะลดลงร้อยละ 75-90 การลดชิ้นส่วนที่ชำรุดนอกจากนี้ยังลดลงเหตุผลสำหรับ
สินค้าคงเหลืออยู่บนพื้นฐานของกระบวนการที่ไม่น่าเชื่อถือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปัญหาของชิ้นส่วนที่บกพร่องถูกแก้ไข โดยพยายามให้ข้อบกพร่องเป็นศูนย์ เพราะการผลิตการผลิตไม่ต้องพึ่งพาสินค้าเพื่อทดแทนส่วนที่บกพร่อง หรือวัสดุ เน้นต่อคุณภาพทั้งภายในและภายนอก ซื้อวัสดุที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ผลเป็นที่น่าประทับใจ : หมายเลขชิ้นส่วนจึงปฏิเสธลดลงร้อยละ 75 และ 90 การลดชิ้นส่วนบกพร่องยังจีบให้เหตุผลสำหรับสินค้าคงเหลือตามกระบวนการที่ไม่น่าเชื่อถือ