The World's Most Unusual Millionair

The World's Most Unusual Millionaire
Hetty Robinson was born in 1834. When her parents died, she was thirty years old. They left her $10 million ($185 million in today's dollars). She was very good at business and soon made more money. Hetty was famous as the riches woman in the United States, but she was also famous because she was very stingy.

Even when she was young, she was stingy. For instance, on her twenty-first birthday, she refused to light the candles on her birthday cake because she did not want to waste them. The next day, she cleaned the candles and returned them to the store to get a refund.

Hetty always thought men wanted to marry her for her money. Finally, at the age of thirty-three, she decided to get married because she did not want her relatives to get her money. She married Edward Green, who was a millionaire. They had a son and a daughter. Soon after, Hetty divorced him because she did not agree with him about money matters.

Hetty was even stingy with her own child. For example, when her son hurt his knee in an accident, Hetty did not call a doctor. She tired to take care of it herself. When her son's knee didn't get better, she dressed him in old clothes and took him to a free clinic. The doctors recognized her and asked for money. Hetty refused to pay and took her son home. The boy did not get medical treatment, and a few years later his leg was amputated.


Hetty was stingy with herself, too. For example, she always wore the same black dress. As the years passed by, the color of the dress changed from black to green and then brown. When the dress became dirty, she went to a cheap laundry and told them to wash only the bottom where it was dirty, and she waited until it was ready. Her undergarments were old newspapers she got from the streets. She rented a cheap apartment with no heat in New Jersey because she did not want to pay taxes in New York. Then she traveled on the train to her office in New York. Her office was a space in a bank, which the bank gave to her for free. All she ate was raw onions and cold oatmeal. She as too stingy to spend money to heat he food. Sometimes, to heat her oatmeal, she put it on the office heater because that was free. She also ate cookies, but regular cookies were too expensive for her, so she walked a long way to get broken cookies, which were much cheaper. One time, she spent half the night looking for a two-cent stamp.

When Hetty Green died in 1916, she had no friends. She left more than $100 million (over $17 billion today) to her son and daughter. Her son and daughter were not stingy like Hetty, and they spent the money freely.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เศรษฐีของโลกผิดปกติมาก Hetty โรบินสันเกิด 1834 เมื่อพ่อเสียชีวิต เธออายุสามสิบปี พวกเขาทิ้งเธอ 10 ล้านเหรียญ ($185 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน) เธอที่ธุรกิจดี และเร็ว ทำเงินมากขึ้น Hetty ก็มีชื่อเสียงเป็นผู้หญิงร่ำรวยในสหรัฐอเมริกา แต่เธอก็ยังมีชื่อเสียงเพราะเธอตระหนี่ถี่เหนียวมาก แม้เมื่อเธอหนุ่ม เธอก็ตระหนี่ถี่เหนียว เช่น ในวันเกิดยี่สิบครั้งแรกของเธอ เธอปฏิเสธที่จะแสงเทียนบนเค้กวันเกิดของเธอ เพราะเธอไม่ต้องการเสียพวกเขา วันถัดไป เธอทำความสะอาดเทียน และส่งกลับให้ไปเก็บจะได้รับเงินคืน Hetty คิดเสมอว่า ผู้ชายอยากแต่งงานกับเธอเพื่อเงินเธอ ในที่สุด อายุสามสิบสาม เธอตัดสินใจแต่งงาน เพราะเธอไม่ต้องญาติของเธอจะได้รับเงินของเธอ เธอแต่งงานเอ็ดเวิร์ดสีเขียว ผู้ที่เป็นเศรษฐี พวกเขามีลูกชายและลูกสาว หลังจาก Hetty หย่าร้างเขาเนื่องจากเธอก็ไม่เห็นด้วยกับเขาเกี่ยวกับเรื่องเงิน Hetty คือตระหนี่ถี่เหนียวแม้แต่กับลูกของเธอเอง ตัวอย่างเช่น เมื่อบุตรเจ็บหัวเข่าของเขาในอุบัติเหตุ Hetty ไม่เรียกแพทย์ เธอเหนื่อยกับการดูแลของมันเอง เมื่อเข่าของลูกชายของเธอไม่ได้ เธอสวมเสื้อผ้าเก่าเขา และพาเขาไปคลินิกฟรี แพทย์รู้จักเธอ และขอเงิน Hetty ปฏิเสธการจ่าย และเอาลูกชายของเธอที่บ้าน เด็กไม่ได้รับการรักษาพยาบาล และกี่ปีต่อมาถูกตัดขาของเขา Hetty คือตระหนี่ถี่เหนียว ด้วยตัวเอง เช่น เธอมักจะสวมชุดสีดำเดียวกัน ปีที่ผ่านโดย สีของชุดที่เปลี่ยนจากดำเป็นสีเขียว และสีน้ำตาลแล้ว เมื่อการแต่งกายกลายเป็นสกปรก เธอไปมีบริการซักรีดราคาถูก และบอกให้ล้างเฉพาะข้างล่างที่มันสกปรก และเธอรอจนพร้อม เสื้อด้านในของเธอถูกหนังสือพิมพ์เก่าที่เธอได้จากถนน เธอเช่าห้องไม่ร้อนในนิวเจอร์ซีย์ราคาถูก เพราะเธอไม่ต้องการเสียภาษีในนิวยอร์ก จากนั้น เธอเดินทางบนรถไฟไปยังสำนักงานของเธอในนิวยอร์ก สำนักงานคือ พื้นที่ในธนาคาร ซึ่งธนาคารมอบให้กับเธอฟรี ทั้งหมดที่เธอกินคือหัวหอมดิบและข้าวโอ๊ตเย็น เธอเป็นตระหนี่ถี่เหนียวเกินไปการใช้จ่ายเงินให้ความร้อนอาหารของเขา บางครั้ง ความร้อนข้าวโอ๊ตของเธอ เธอใส่ไว้ในสำนักงานเครื่องทำความร้อนเนื่องจากที่ฟรี นอกจากนี้เธอยังทานคุกกี้ แต่คุกกี้ปกติก็แพงเกินไปสำหรับเธอ ดังนั้นเธอเดินทางไปรับเสียคุกกี้ ซึ่งมีราคาถูกกว่ามาก ครั้งหนึ่ง เธอใช้เวลาครึ่งคืนหาแสตมป์สองเซ็นต์ เมื่อสีเขียว Hetty ตายในปี 1916 เธอไม่มีเพื่อน เธอมากกว่า 100 ล้านเหรียญ (มากกว่า $17 พันล้านวันนี้) กับลูกชายและลูกสาวของเธอ ลูกชายและลูกสาวของเธอไม่ตระหนี่ถี่เหนียวเช่น Hetty และพวกเขาใช้เงินได้อย่างอิสระ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ของโลกที่ผิดปกติมากที่สุดเศรษฐี
เฮตตี้โรบินสันเกิดใน 1834 เมื่อพ่อแม่ของเธอเสียชีวิตเธออายุสามสิบปี พวกเขาทิ้งเธอ $ 10 ล้านบาท ($ 185 ล้านดอลลาร์ในวันนี้) เธอเป็นคนที่ดีมากที่ธุรกิจและเร็ว ๆ นี้ทำเงินได้มากขึ้น เฮตตี้เป็นคนมีชื่อเสียงเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่เธอก็ยังมีชื่อเสียงเพราะเธอเป็นตระหนี่มาก. แม้ในขณะที่เธอยังเป็นเด็กเธอเป็นตระหนี่ ยกตัวอย่างเช่นในวันเกิดที่ยี่สิบเอ็ดของเธอเธอปฏิเสธที่จะจุดเทียนบนเค้กวันเกิดของเธอเพราะเธอไม่ต้องการที่จะเสียพวกเขา วันรุ่งขึ้นเธอทำความสะอาดเทียนและพวกเขากลับมาที่ร้านที่จะได้รับเงินคืน. เฮตตี้คนมักจะคิดว่าอยากจะแต่งงานกับเธอสำหรับเงินของเธอ ในที่สุดเมื่ออายุสามสิบสามเธอก็ตัดสินใจที่จะแต่งงานเพราะเธอไม่ต้องการที่ญาติของเธอที่จะได้รับเงินของเธอ เธอแต่งงานกับเอ็ดเวิร์ดสีเขียวที่เป็นเศรษฐี พวกเขามีลูกชายและลูกสาว ไม่นานหลังจากนั้นเฮตตี้เขาหย่าเพราะเธอไม่เห็นด้วยกับเขาเกี่ยวกับเรื่องเงิน. เฮตตี้ก็ยิ่งตระหนี่กับลูกของเธอเอง ตัวอย่างเช่นเมื่อลูกชายของเธอได้รับบาดเจ็บหัวเข่าของเขาในอุบัติเหตุเฮตตี้ไม่ได้โทรหาหมอ เธอเบื่อที่จะดูแลมันตัวเอง เมื่อหัวเข่าของลูกชายของเธอไม่ได้รับดีกว่าที่เธอสวมใส่เขาในเสื้อผ้าเก่าและพาเขาไปที่คลินิกฟรี แพทย์ได้รับการยอมรับของเธอและขอเงิน เฮตตี้ไม่ยอมจ่ายและเอาลูกชายของเธอที่บ้าน เด็กไม่ได้รับการรักษาทางการแพทย์และไม่กี่ปีต่อมาที่ขาของเขาด้วน. เฮตตี้เป็นตระหนี่กับตัวเองมากเกินไป ยกตัวอย่างเช่นเธอมักจะสวมชุดสีดำเหมือนกัน เมื่อปีที่ผ่านมาโดยสีของการแต่งกายที่มีการเปลี่ยนแปลงจากสีดำเป็นสีเขียวและสีน้ำตาลแล้ว เมื่อชุดกลายเป็นสกปรกเธอเดินไปซักผ้าราคาถูกและบอกพวกเขาที่จะล้างเพียงด้านล่างที่มันเป็นสกปรกและเธอรอจนกว่าจะพร้อม ชุดชั้นในของเธอเป็นหนังสือพิมพ์เก่าที่เธอได้รับจากถนน เธอให้เช่าอพาร์ทเม้นราคาถูกกับความร้อนในรัฐนิวเจอร์ซีย์ไม่ได้เพราะเธอไม่ต้องการที่จะจ่ายภาษีในนิวยอร์ก จากนั้นเธอก็เดินทางบนรถไฟไปยังสำนักงานของเธอในนิวยอร์ก สำนักงานของเธอเป็นพื้นที่ในธนาคารที่ธนาคารให้กับเธอได้ฟรี ทุกอย่างที่เธอกินเป็นหัวหอมดิบและข้าวโอ๊ตเย็น เธอเป็นตระหนี่เกินไปที่จะใช้จ่ายเงินเพื่อให้ความร้อนอาหารเขา บางครั้งให้ความร้อนข้าวโอ๊ตเธอใส่ไว้ในเครื่องทำน้ำอุ่นสำนักงานเพราะที่เป็นอิสระ นอกจากนี้เธอยังกินคุกกี้, คุกกี้ตามปกติ แต่มีราคาแพงเกินไปสำหรับเธอเพื่อให้เธอเดินเป็นทางยาวจะได้รับคุกกี้หักซึ่งเป็นที่ถูกกว่ามาก ครั้งหนึ่งเธอใช้เวลาครึ่งคืนมองหาตราประทับสองร้อย. เมื่อเฮตตี้กรีนเสียชีวิตในปี 1916 เธอไม่มีเพื่อน เธอทิ้งมากกว่า $ 100 ล้านบาท (มากกว่า $ 17 พันล้านวันนี้) กับลูกชายและลูกสาวของเธอ ลูกชายและลูกสาวของเธอไม่ตระหนี่เช่นเฮตตี้และพวกเขาใช้จ่ายเงินได้อย่างอิสระ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เศรษฐีผิดปกติมากที่สุดของโลกแฮตตี้ โรบินสันเกิดใน 1834 . เมื่อพ่อแม่ของเธอตาย เธออายุ 30 ปี พวกเขาทิ้งเธอ $ 10 ล้าน ( $ 185 ล้านดอลลาร์ในวันนี้ ) เธอเก่งธุรกิจนี้ทำเงินได้มากขึ้น แฮตตี้ก็มีชื่อเสียงเป็นทรัพย์สมบัติของผู้หญิงในสหรัฐอเมริกา แต่เธอก็ยังมีชื่อเสียง เพราะเธอเป็นคนใจแคบมากแม้แต่ตอนที่เธอยังเด็ก เธอเลย ตัวอย่างเช่นในวันเกิด 21 ของเธอ เธอปฏิเสธที่จะจุดเทียนบนเค้กวันเกิดของเธอ เพราะเธอไม่อยากจะทิ้งไป วันต่อมา เธอทำความสะอาดเทียนและส่งพวกเขากลับมาที่ร้านเพื่อเอาเงินคืนแฮตตี้ก็คิดว่า ผู้ชายที่อยากแต่งงานกับเธอเพราะเงินของเธอ ในที่สุดเมื่ออายุสามสิบสาม เธอตัดสินใจที่จะแต่งงานกัน เพราะเธอไม่ต้องการให้ญาติเธอรับเงินของเธอ เธอแต่งงานกับเอ็ดเวิร์ดสีเขียวที่เป็นมหาเศรษฐี พวกเขามีลูกชายและลูกสาว หลังจากที่ แฮตตี้หย่าเขาเพราะเขาไม่เห็นด้วยกับเขาเกี่ยวกับเรื่องเงินแฮตตี้ก็ขี้เหนียวกับลูกตัวเอง ตัวอย่างเช่น เมื่อลูกชายของเธอเจ็บเข่าของเขาในอุบัติเหตุ แฮตตี้ก็ไม่เรียกหมอ เธอเหนื่อยที่ต้องดูแลเอง เมื่อลูกชายของเธอเข่าไม่หาย เธอแต่งตัวเขาในเสื้อผ้าเก่า และพาเขาไปที่คลีนิค หมอที่รู้จักเธอ และขอเงิน แฮตตี้ปฏิเสธที่จะจ่ายเงินและพาลูกกลับบ้าน เด็กที่ไม่ได้รับการรักษา และไม่กี่ปีต่อมา ขาขาดแฮตตี้ขี้เหนียวกับตัวเองเหมือนกัน ตัวอย่างเช่น เธอมักจะสวมชุดสีดำเหมือนกัน เมื่อเวลาผ่านไป สีเสื้อ เปลี่ยนจากสีดำเป็นสีเขียว และสีน้ำตาล เมื่อเสื้อผ้าก็สกปรก เธอไปที่ร้านซักรีดราคาถูก และบอกพวกเขาเพื่อล้างเพียงด้านล่างที่มันสกปรก เธอรอจนกว่าจะพร้อม ชุดชั้นในเป็นหนังสือพิมพ์เก่าที่เธอได้จากถนน เธอเช่าอพาร์ทเม้นราคาถูก ไม่มีความร้อนใน New Jersey เพราะเธอไม่ต้องการที่จะจ่ายภาษีในนิวยอร์ก จากนั้นเธอเดินทางบนรถไฟสำนักงานของเธอในนิวยอร์ก สำนักงานของเธอ คือ พื้นที่ในธนาคาร ซึ่งธนาคารให้ฟรี เธอกินเป็นหัวหอมดิบและเย็น ข้าวโอ๊ต เธอขี้เหนียวมากที่จะใช้จ่ายเงินเพื่อความร้อนเขาอาหาร บางครั้งความร้อนข้าวโอ๊ต เธอวางมันไว้ที่สำนักงาน เครื่องทำน้ำอุ่น เพราะมันฟรี เธอกินคุกกี้ แต่คุกกี้ก็แพงเกินกว่าปกติ เธอเลยเดินไกลเพื่อรับคุกกี้แตก ซึ่งถูกกว่ามาก ครั้งหนึ่ง เธอใช้เวลาเกือบครึ่งคืนหาแสตมป์ 2 บาทเมื่อแฮตตี้สีเขียวเสียชีวิตในปี 1916 เธอไม่มีเพื่อน เธอทิ้งมากกว่า $ 100 ล้าน ( $ 17 พันล้านวันนี้ ) ให้กับลูกชายและลูกสาวของเธอ ลูกชายและลูกสาว ไม่งกเหมือนแฮตตี้และพวกเขาจ่ายเงินได้อย่างอิสระ