Automobiles, traffic and congestion

Automobiles, traffic and congestion are synonymous with Los Angeles but that wasn’t always the case. Years of policy decisions have played significant roles in shaping a system that continues to grow and adapt to its dynamic transportation needs. Guided decisions to organize the City’s transportation infrastructure came as early as 1873 with single-track horse car driven lines. But by 1915, there were 55,000 cars on the streets of Los Angeles and the age of the automobile, the sprawl of the City, and demise of public transit was in full swing. The 1920’s saw significant transformation with "the first era of grand designs". (Sechler, Robert) This included policy pointed at mitigating traffic congestion that led to the first Major Traffic Plan and a simplified Traffic Code, also a national first in policy development. (LADOT).

The 1940’s brought forth the first freeways in the state and by the 1950’s, the railway systems began to shut down. Large-scale land acquisition and destruction of neighborhoods for new freeways were now being rapidly constructed with the help of the 9:1 match from the federal government. With streetcars vanishing and tracks paved over, busses were taking the place of rail and automobiles were flooding the roads as quickly as they could be built.
Highway construction, population and traffic volume continued to increase and by the mid-1970’s, it was apparent that the complex problems of mobility could not be resolved by traffic control measures alone. (LADOT) The Los Angeles County Transportation Commission was created to oversee public transit and highway policy. The group managed the transit systems and led decisions to achieve rational service based outcomes. Although decades of auto-centric planning plagued Los Angeles as it continued to suffer insurmountable vehicle congestion.
However, recent transportation policy in Los Angeles is taking the city in a bold new direction by aggressively implementing transit and active transportation projects. These projects are being funded and constructed largely in part to Measure R, a ballot measure passed in the November 2008 elections that would specifically fund transportation projects in Los Angeles County for the next 30 years. (Measure R)
Measure R is a five percent sales tax increase in Los Angeles County that is expected to commit upwards of $40 billion towards during the measure’s 30-year lifespan. The goal of Measure R is to get more Angelenos out of their cars in the City’s growing transit and active transportation system. The campaign to pass Measure R was heavily backed by the City’s leaders, including Mayor Antonio Villaraigosa. (LA Times)
Today, Measure R is the driving force behind many of Los Angeles’ high-profile projects that are gaining national attention. Most evident is the numerous transit projects in the City including the planned Green Line rail to LAX, the Sepulveda Pass Transit Corridor, the “Subway to the Sea” Expo line from Downtown Los Angeles to Santa Monica, and the extension of the bus-rapid transit Orange Line in the San Fernando Valley. (Measure R)
Measure R will continue to shape the future of transportation in Los Angeles. With new Metro stations opening every year, the growing rail system is gaining popularity. Likewise, the installation of bike lanes throughout Los Angeles and events such as car-free CicLAvia is increasing the City’s bicycle ridership numbers. As the transportation needs of Los Angeles continue to grow and evolve, the present becomes a departure from past mistakes and a transition to a multimodal future.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รถยนต์ การจราจร และความแออัดมีลอสแองเจลิส แต่ว่าไม่เสมอกรณีที่ ปีของการตัดสินใจนโยบายได้เล่นบทบาทสำคัญในการสร้างระบบที่ยังคงเติบโต และปรับตัวเข้ากับความต้องการขนส่งแบบไดนามิก ตัดสินใจแนะนำการจัดโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งของเมืองมาเป็นช่วงต้นปี 1873 กับม้าเป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยบรรทัด แต่ โดย 1915 มี 55,000 รถบนถนนที่ลอสแองเจลิส และอายุของรถยนต์ นั่นของเมือง และการตายของขนส่งสาธารณะในเต็มแกว่ง 27 เห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญกับ "ยุคแรกของการออกแบบแกรนด์" (Sechler โรเบิร์ต) รวมนโยบายชี้ที่บรรเทาการจราจรที่นำไปสู่แผนการจราจรหลักแรกและรหัสจราจรง่าย ยังชาติครั้งแรกในการพัฒนานโยบาย (LADOT)ยุคปีค.ศ. 1940 การนำมาทางด่วนแรกในสถานะ และ 1950 รางรถไฟเริ่มปิด ซื้อที่ดินขนาดใหญ่และทำลายของที่คุ้นเคยสำหรับทางด่วนใหม่ตอนนี้ถูกอย่างรวดเร็วสร้าง ด้วยความช่วยเหลือจากรัฐบาลการแข่งขัน 9:1 รถที่หายสาบสูญและเพลงปูเหนือ รถบัสขึ้นที่ทางรถไฟ และรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมถนนเป็นอย่างที่พวกเขาสามารถสร้างทางหลวงก่อสร้าง ประชากร และจราจรเสียงยังคงเพิ่มขึ้น และกลางปี 1970 มันถูกมองว่า ไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนของการเคลื่อนไหว โดยมาตรการการควบคุมการจราจรเพียงอย่างเดียว (LADOT) ลอสแองเจลิสเขตขนส่งเสริมสร้างการดูแลขนส่งสาธารณะและนโยบายการทางหลวง กลุ่มการจัดการระบบขนส่ง และนำให้เหตุผลบริการตามผลการตัดสินใจ แม้ว่าทศวรรษของการวางแผนเป็นศูนย์กลางอัตโนมัติประสบลอสแองเจลิสขณะที่มันยังคงประสบปัญหาความแออัดของรถผ่านไม่ได้อย่างไรก็ตาม ล่าขนส่งนโยบายในลอสแองเจลิสคือการเมืองในทิศทางใหม่เป็นตัวหนา โดยการอุกอาจใช้ขนส่งและโครงการขนส่งที่ใช้งานอยู่ โครงการเหล่านี้ต้องการทุน และสร้างส่วนใหญ่ในส่วนการวัด R วัดบัตรลงคะแนนผ่านในการเลือกตั้ง 2551 พฤศจิกายนที่จะโดยเฉพาะกองทุนโครงการขนส่งในเขตลอสแอนเจลิปี 30 (วัด R)วัด R คือ การขึ้นภาษีการขายร้อยละ 5 ในเขตลอสแอนเจลิสที่คาดว่าจะส่งจำนวน 40 พันล้านเหรียญต่อระหว่างอายุ 30 ปีของวัด เป้าหมายของการวัด R จะได้ Angelenos เพิ่มเติมจากรถยนต์ของเมืองเติบโตและระบบขนส่งที่ใช้งานอยู่ แคมเปญผ่าน R วัดได้หนักได้รับการสนับสนุน โดยผู้นำของเมือง รวมทั้งนายกเทศมนตรี Antonio Villaraigosa (LA ครั้ง)วันนี้ R วัดเป็นแรงผลักดันอยู่เบื้องหลังของโครงการสูงโปรไฟล์ลอสแอนเจลิที่จะดึงดูดความสนใจของชาติ ชัดเจนที่สุดคือการขนส่งหลายโครงการในเมืองรวมถึงรถไฟสายสีเขียวแผน LAX, Sepulveda ผ่าน ทางขนส่ง สายเอ็กซ์โป "รถไฟใต้ดินไปทะเล" จากดาวน์ทาวน์ลอสแอนเจลินตา และส่วนขยายของรถอย่างรวดเร็วผ่านเส้นสีส้มใน San Fernando Valley (วัด R)วัด R จะกำหนดอนาคตของการขนส่งในลอสแองเจลิส ใหม่รถไฟใต้ดินสถานีเปิดทุกปี ระบบรางเพิ่มขึ้นจะได้รับความนิยม ในทำนองเดียวกัน การติดตั้งของ Los Angeles และเหตุการณ์เช่นรถ CicLAvia เลนจักรยานเพิ่มหมายเลขผู้โดยสารของรถจักรยานของเมือง เป็นความต้องการขนส่งของลอสแอนเจลิยังคงเติบโต และพัฒนา ปัจจุบันกลายเป็น การเดินทางจากข้อผิดพลาดที่ผ่านมาและช่วงการเปลี่ยนภาพไปเนื่องหลายที่ในอนาคต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รถยนต์การจราจรและความแออัดที่ตรงกันกับ Los Angeles แต่นั่นก็ไม่เสมอกรณี ปีของการตัดสินใจเชิงนโยบายมีบทบาทสำคัญในการสร้างระบบที่ยังคงเติบโตและปรับให้เข้ากับความต้องการของการขนส่งแบบไดนามิกของมัน ตัดสินใจแนะนำในการจัดระเบียบโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งของเมืองมาเป็นช่วงต้น 1873 มีรางเดียวม้ารถที่ขับเคลื่อนด้วยเส้น แต่โดยปี 1915 มี 55,000 คันบนท้องถนนของ Los Angeles และอายุของรถยนต์ที่แผ่กิ่งก้านสาขาของเมืองและการตายของการขนส่งสาธารณะอยู่ในเต็มแกว่ง ปี 1920 เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญด้วย "ยุคแรกของการออกแบบที่ยิ่งใหญ่" (Sechler โรเบิร์ต) รวมถึงนโยบายการชี้ไปที่การบรรเทาความแออัดของการจราจรที่นำไปสู่แผนแรกสาขาวิชาจราจรและรหัสการจราจรง่ายยังเป็นชาติแรกในการพัฒนานโยบาย (LADOT). ปี 1940 นำมาทางด่วนแรกในรัฐและโดยปี 1950 ระบบรถไฟเริ่มที่จะปิดตัวลง การซื้อที่ดินขนาดใหญ่และการทำลายของที่อยู่อาศัยสำหรับทางด่วนใหม่นี้ถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยความช่วยเหลือของ 9: 1 การแข่งขันจากรัฐบาลกลาง กับรถที่หายไปและแทร็คปูมากกว่ารถบัสกำลังสถานที่ของการรถไฟและรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมถนนเป็นอย่างที่พวกเขาอาจจะสร้างขึ้น. ก่อสร้างทางหลวงประชากรและปริมาณการจราจรยังคงเพิ่มขึ้นและในช่วงกลางปี ​​1970 มันก็เห็นได้ชัดว่า ปัญหาที่ซับซ้อนของการเคลื่อนไหวที่ไม่สามารถแก้ไขได้โดยการใช้มาตรการควบคุมการจราจรเพียงอย่างเดียว (LADOT) เดอะ Los Angeles County สำนักงานคณะกรรมการกำกับการขนส่งที่ถูกสร้างขึ้นในการกำกับดูแลการขนส่งสาธารณะและนโยบายทางหลวง กลุ่มการจัดการระบบขนส่งและนำการตัดสินใจเพื่อให้บรรลุผลตามบริการที่มีเหตุผล แม้ว่าทศวรรษที่ผ่านมาของการวางแผนอัตโนมัติศูนย์กลาง plagued Los Angeles ในขณะที่มันจะประสบความแออัดของรถผ่านไม่ได้. อย่างไรก็ตามนโยบายการขนส่งที่ผ่านมาใน Los Angeles คือการเมืองในทิศทางใหม่ที่เป็นตัวหนาโดยอุกอาจการดำเนินการขนส่งและการขนส่งที่ใช้งาน โครงการเหล่านี้จะถูกได้รับการสนับสนุนและสร้างส่วนใหญ่อยู่ในส่วนหนึ่งในการวัด R, วัดการลงคะแนนเสียงผ่านในการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน 2008 ที่จะมาโดยเฉพาะกองทุนโครงการขนส่งใน Los Angeles County สำหรับ 30 ปีข้างหน้า (วัด R) วัด R เป็นร้อยละห้าเพิ่มขึ้นภาษีการขายใน Los Angeles County ที่คาดว่าจะกระทำขึ้น $ 40 พันล้านต่อระหว่างตัวชี้วัดของอายุการใช้งาน 30 ปี เป้าหมายของการวัด R คือการได้รับ Angelenos มากขึ้นออกมาจากรถของพวกเขาในการขนส่งการเจริญเติบโตและระบบการขนส่งที่ใช้งานของเมือง การรณรงค์ครั้งนี้จะผ่านวัด R ได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากผู้นำของเมืองรวมทั้งนายกเทศมนตรีอันโตนิโอ Villaraigosa (LA Times) วันนี้วัด R คือแรงผลักดันที่อยู่เบื้องหลังหลายของ Los Angeles โครงการรายละเอียดสูงที่กำลังได้รับความสนใจในระดับชาติ ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือโครงการการขนส่งจำนวนมากในเมืองรวมทั้งการวางแผนทางรถไฟสายสีเขียวไปยังสนามบิน LAX ที่ Sepulveda ผ่านการขนส่งทางเดินที่ "รถไฟใต้ดินทะเล" สาย Expo จากเมือง Los Angeles ไปซานตาโมนิกาและส่วนขยายของรถอย่างรวดเร็ว ขนส่งสายสีส้มในซานเฟอร์นันโดวัลเลย์ (วัด R) วัด R จะยังคงกำหนดอนาคตของการขนส่งใน Los Angeles กับสถานีรถไฟใต้ดินเปิดใหม่ทุกปีการเจริญเติบโตของระบบรถไฟได้รับความนิยม ในทำนองเดียวกันการติดตั้งเลนจักรยานตลอด Los Angeles และเหตุการณ์เช่น CicLAvia รถฟรีที่มีการเพิ่มจำนวนจักรยานผู้โดยสารของเมือง ในฐานะที่เป็นความต้องการขนส่งของ Los Angeles ยังคงเติบโตและมีวิวัฒนาการในปัจจุบันจะกลายเป็นออกเดินทางจากความผิดพลาดในอดีตและการเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตที่ต่อเนื่อง