DoiTung brand. She said, “People sh

DoiTung brand. She said, “People should not buy
our products out of sympathy. We have to meet
a certain standard, and not make a loss.” She
was aware that the project could not help them
indefinitely, so that any economic activity had to
be self-sustaining. This became the underlying
philosophy for production and sales of DoiTung
products: with this discernment for high standards
and quality, the Doi Tung Development Project has
been able to create a successful DoiTung brand
under four business units: food (mainly coffee and
macadamia products), handicrafts, horticultural
and other agricultural goods, and tourism. Since
2000, DoiTung has been self-sufficient.
His Majesty’s Technological Advances and
Concepts: From Son to Mother
Dr. Riksh recounted how the Princess Mother
learned from His Majesty the King’s royal initiative
projects as the Doi Tung Development Project proceeded.
One example was the planting of vetiver
grass to prevent soil erosion on Doi Tung, which
then was expanded into the Vetiver Grass Development
Project for further research and development
for application elsewhere in Thailand and overseas.
“When HRH the Princess Mother started the
Doi Tung Development Project, she envisioned Doi
Tung would one day become an important tourist
destination. To facilitate visitors, the government
built roads from the valley up to Doi Tung. The Department
of Highways had little experience in those
days in building roads in the mountains. For their
first attempts they used the same road-construction
techniques as on the flat plains, expanding each
side extensively. But during the rainy season, the
soil [and parts of the roads] would be eroded and
washed away. The Princess Mother discussed this
problem with His Majesty the King at Srapathum
Palace [where she resided in Bangkok]. His Majesty
suggested she introduce vetiver grass on Doi Tung,
as he had read in a World Bank report that vetiver
grass can help prevent soil erosion. The Princess
Mother took his advice, and brought vetiver grass
from Phimai District, Nakhon Ratchasima, and
Tambon Khun Talay, Muang District, Surat Thani, to
Doi Tung, where she had a plot of vetiver planted.
The Princess Mother visited the plot numerous
times, and even tried planting some by herself.
When the grass had grown sufficiently strong, she
suggested we check to see how strong the roots
were, and whether they would be strong enough
to prevent soil erosion. We did as she instructed,
digging up the grass and spraying water on the
roots to clear the soil away. We found the vetiver
grass, after only 9 months, had grown roots up to
3 to 4 metres long, growing in thick tufts. Later,
when Their Majesties the King and Queen came
to visit at Doi Tung Villa, HRH the Princess Mother
took them to see the vetiver plot. As a result of the
vision of the Princess Mother, and the wisdom of
His Majesty the King, we are now able to use vetiver
grass to prevent soil erosion.
“Now, if you go up to Doi Tung, you will see
vetiver grass grown along the roads and in the
villages where soil erosion was once rampant.
Many people now make field visits to Doi Tung to
study the use of vetiver grass.”
M.R. Disnadda Diskul, then Secretary-General

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แบรนด์ดอยตุง เธอกล่าวว่า "ผู้ไม่ควรซื้อผลิตภัณฑ์ของเราจากการเห็นอกเห็นใจ เราต้องตอบสนองบางมาตรฐาน และไม่ทำให้สูญเสีย" เธอได้ทราบว่า โครงการจะไม่ช่วยให้พวกเขาโดยไม่จำกัดเวลา เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจใด ๆ ได้อย่างยั่งยืน นี้กลายเป็นต้นแบบปรัชญาในการผลิตและการขายของดอยตุงผลิตภัณฑ์: ด้วยฉลาดนี้มาตรฐานสูงและคุณภาพ โครงการพัฒนาดอยตุงฯ มีสามารถสร้างแบรนด์ดอยตุงประสบความสำเร็จภายใต้หน่วยธุรกิจ: อาหาร (ส่วนใหญ่กาแฟ และผลิตภัณฑ์แมคคาเดเมีย), หัตถกรรม พืชสวนสินค้าเกษตร และอื่น ๆ การท่องเที่ยว ตั้งแต่2000 ดอยตุงได้พอเพียงพระก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และแนวคิด: จากลูกเพื่อแม่ดร. Riksh อันว่า สมเด็จย่าเรียนรู้จากสมเด็จพระองค์ริเริ่มดำเนินการโครงการเป็นโครงการพัฒนาดอยตุงฯตัวอย่างหนึ่งคือการ ปลูกหญ้าแฝกหญ้าเพื่อป้องกันการพังทลายของดินบนดอยตุง ซึ่งแล้ว ขยายเป็นการพัฒนาหญ้าแฝกโครงการการวิจัยและพัฒนาสำหรับโปรแกรมประยุกต์อื่น ในประเทศไทย และต่างประเทศ"เมื่อสมเด็จพระแม่เจ้าหญิงเริ่มต้นโครงการพัฒนาดอยตุง เธอจินตนาการดอยตุงจะวันหนึ่งกลายเป็น แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญปลายทาง เพื่ออำนวยความสะดวกผู้เข้าชม รัฐบาลสร้างถนนจากหุบเขาขึ้นดอยตุง กรมของทางหลวงมีประสบการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ในผู้วันในการสร้างถนนบนภูเขา สำหรับพวกเขาความพยายามครั้งแรกที่พวกเขาใช้ตัวเดียวกันก่อสร้างถนนเทคนิคเป็นแบนราบ ขยายแต่ละด้านอย่างกว้างขวาง แต่ใน ช่วงฤดู ฝน การจะกัดเซาะดิน [และส่วนของถนน] และล้างไป สมเด็จย่าที่กล่าวถึงนี้ปัญหากับสมเด็จที่ราชาภิเษกสมรสพาเลซ [ที่เธออยู่ในกรุงเทพมหานคร] สมเด็จเธอแนะนำหญ้าแฝกบนพื้นที่ดอยตุง แนะนำขณะที่เขาอ่านในรายงานธนาคารโลกที่หญ้าแฝกหญ้าจะช่วยป้องกันการพังทลายของดิน เจ้าหญิงแม่เอาคำแนะนำของเขา และนำหญ้าแฝกจากอำเภอพิมาย นครราชสีมา และตำบลขุนทะเล อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี การดอยตุง ที่เธอมีพล็อตของหญ้าแฝกที่ปลูกแม่เจ้าหญิงชมพล็อตมากมายเวลา และแม้กระทั่งพยายามปลูกบางส่วน ด้วยตัวเองเมื่อหญ้าเติบโตแข็งแรงพอ เธอเราตรวจดูรากแข็งแรงวิธีการแนะนำและว่าพวกเขาจะแข็งแรงพอเพื่อป้องกันการพังทลายของดิน เราทำ ตามที่เธอแนะนำขุดขึ้นหญ้า และพ่นน้ำบนรากเพื่อล้างดินออกไป เราพบแฝกหญ้า หลังจากนั้นเพียง 9 เดือน เติบโตรากถึง3-4 เมตรยาว เติบโตในเล็กน้อยหนา ในภายหลังเมื่อพสกนิกรกษัตริย์และราชินีมาไปดอยตุงวิลล่า สมเด็จพระแม่เจ้าหญิงเอาไปดูแปลงหญ้าแฝก เป็นผลการวิสัยทัศน์ของสมเด็จย่า และภูมิปัญญาของพระบาทสมเด็จ เราจึงสามารถใช้หญ้าแฝกหญ้าเพื่อป้องกันการพังทลายของดิน"ตอนนี้ ถ้าคุณขึ้นไปดอยตุง คุณจะเห็นหญ้าแฝกที่ปลูกอยู่ บนถนน และในการหมู่บ้านที่พังทลายของดินเคยอาละวาดหลายคนตอนนี้ทำให้ดอยตุงไปชมฟิลด์ศึกษาการใช้หญ้าแฝก"ม.ร.ว.เด่น แล้วเลขาธิการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แบรนด์ดอยตุง เธอกล่าวว่า "ผู้คนไม่ควรซื้อ
ผลิตภัณฑ์ของเราออกจากความเห็นอกเห็นใจ เราต้องตอบสนอง
มาตรฐานบางอย่างและไม่ทำให้สูญเสีย. "เธอ
ก็รู้ว่าโครงการนี้ไม่สามารถช่วยให้พวกเขา
ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจใด ๆ จะต้อง
เป็นตัวเองอย่างยั่งยืน เรื่องนี้กลายเป็นพื้นฐาน
ปรัชญาสำหรับการผลิตและการขายของดอยตุง
: ผลิตภัณฑ์ที่มีความฉลาดนี้ได้มาตรฐานที่สูง
และคุณภาพของโครงการพัฒนาดอยตุงฯ ได้
รับสามารถที่จะสร้างแบรนด์ดอยตุงที่ประสบความสำเร็จ
ภายใต้สี่หน่วยธุรกิจ: อาหาร (ส่วนใหญ่กาแฟและ
มะคาเดเมียผลิตภัณฑ์) งานฝีมือ, พืชสวน
และสินค้าเกษตรอื่น ๆ และการท่องเที่ยว ตั้งแต่
ปี 2000 ดอยตุงได้รับพอเพียง.
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและ
แนวคิด: จากลูกชายแม่
ดร. Riksh เล่าวิธีการที่สมเด็จพระบรมราชชนนี
ได้เรียนรู้จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชดำริ
โครงการเป็นโครงการพัฒนาดอยตุงดำเนินการต่อ.
ตัวอย่างหนึ่งคือการปลูกหญ้าแฝก
หญ้าเพื่อป้องกันการพังทลายของดินบนดอยตุงซึ่ง
จากนั้นได้มีการขยายเข้าไปในหญ้าแฝกเพื่อการพัฒนา
โครงการ การวิจัยและพัฒนา
สำหรับการใช้งานอื่น ๆ ในประเทศและต่างประเทศ.
"เมื่อสมเด็จเริ่ม
โครงการพัฒนาดอยตุงเธอจินตนาการดอย
ตุงวันหนึ่งจะกลายเป็นที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ
ปลายทาง เพื่ออำนวยความสะดวกผู้เข้าชมรัฐบาล
สร้างถนนจากหุบเขาถึงดอยตุง กรม
ทางหลวงมีประสบการณ์น้อยในบรรดา
วันในการสร้างถนนในภูเขา สำหรับพวกเขา
พยายามครั้งแรกที่พวกเขาใช้เดียวกันถนนก่อสร้าง
เทคนิคบนที่ราบแบนขยายแต่ละ
ด้านอย่างกว้างขวาง แต่ในช่วงฤดูฝน
ดิน [และบางส่วนของถนน] จะถูกกัดเซาะและ
พัดหายไป สมเด็จย่ากล่าวถึงนี้
มีปัญหากับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ Srapathum
พระราชวัง [ที่เธออาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ] พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรง
แนะนำให้เธอแนะนำหญ้าแฝกบนดอยตุง
ขณะที่เขาเคยอ่านในรายงานของธนาคารโลกว่าหญ้าแฝก
หญ้าสามารถช่วยป้องกันการพังทลายของดิน ปริ๊นเซ
แม่เอาคำแนะนำของเขาและนำหญ้าแฝก
จากอำเภอพิมายจังหวัดนครราชสีมาและ
ตำบลขุนทะเลอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานีไป
ดอยตุงที่เธอมีพล็อตของหญ้าแฝกที่ปลูก.
ปริ๊นเซแม่ไปเยี่ยมพล็อตหลาย
ครั้ง และแม้กระทั่งพยายามปลูกบางส่วนด้วยตัวเอง.
เมื่อหญ้ามีการเติบโตที่แข็งแกร่งพอที่เธอ
แนะนำให้เราตรวจสอบเพื่อดูวิธีการที่แข็งแกร่งราก
ได้และไม่ว่าพวกเขาจะมีความแข็งแรงพอ
ที่จะป้องกันการพังทลายของดิน เราทำตามที่เธอสั่งการ
ขุดหญ้าและการฉีดพ่นน้ำบน
รากเพื่อล้างดินออกไป เราพบว่าหญ้าแฝก
หญ้าหลังจากนั้นเพียง 9 เดือน, รากเติบโตได้ถึง
3-4 เมตรยาวที่เพิ่มขึ้นในกระจุกหนา ต่อมา
เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินีมา
เพื่อเข้าชมดอยตุงสมเด็จ
พาพวกเขาไปดูพล็อตแฝก ในฐานะที่เป็นผลมาจาก
วิสัยทัศน์ของสมเด็จย่าและภูมิปัญญาของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, ขณะนี้เราสามารถที่จะใช้หญ้าแฝก
หญ้าเพื่อป้องกันการพังทลายของดิน.
"ตอนนี้ถ้าคุณไปถึงดอยตุงคุณจะเห็น
หญ้าแฝกที่ปลูก ไปตามถนนและใน
หมู่บ้านที่พังทลายของดินกำลังอาละวาดครั้งเดียว.
หลายคนตอนนี้ทำให้การเข้าชมข้อมูลไปยังดอยตุงเพื่อ
ศึกษาการใช้หญ้าแฝก. ว่า "
ม.ร.ว. ดิศนัดดาดิศกุลจากนั้นเลขาธิการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

งานแบรนด์ เธอกล่าวว่า " คนไม่ควรซื้อผลิตภัณฑ์ของเรามาจากความสงสาร . เราต้องพบกันเป็นมาตรฐานที่แน่นอน และไม่ทำให้สูญเสีย . " เธอทราบว่าโครงการอาจจะไม่ช่วยให้พวกเขาไปเรื่อย ๆ เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจใด ๆต้องเป็นตนเองอย่างยั่งยืน นี้เป็น พื้นฐานปรัชญาในการผลิตและยอดขายของดอยตุงผลิตภัณฑ์ : ด้วยการหยั่งรู้นี้มาตรฐานสูงและคุณภาพ โครงการพัฒนาดอยตุงฯได้สามารถสร้างแบรนด์ดอยตุง ที่ประสบความสำเร็จภายใต้สี่หน่วยธุรกิจ : อาหาร ( ส่วนใหญ่เป็นกาแฟ และผลิตภัณฑ์แมคคาเดเมีย ) , หัตถกรรม , พืชสวนและสินค้าเกษตรอื่น ๆและการท่องเที่ยว ตั้งแต่2000 , ดอยตุง ได้ด้วยตนเองฝ่าบาท ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และแนวคิด : จากลูกชายของแม่ดร. riksh เล่าว่าองค์หญิงแม่เรียนรู้จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชดำริเป็นโครงการพัฒนาดอยตุงฯ โดยโครงการตัวอย่างหนึ่ง คือ การปลูกหญ้าแฝกหญ้าเพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน บนดอยตุง ซึ่งจากนั้นก็ขยายเป็นหญ้าแฝก พัฒนาโครงการสนับสนุนการวิจัยและการพัฒนาสำหรับโปรแกรมอื่น ๆทั้งในประเทศและ ต่างประเทศ" เมื่อสมเด็จพระบรมราชชนนีเริ่มโครงการพัฒนาดอยตุง เธอมองเห็นภาพดอยตุง วันหนึ่งจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญปลายทาง เพื่อให้ผู้เข้าชมที่รัฐบาลสร้างถนนจากหุบเขาถึงดอยตุง แผนกทางหลวงมีประสบการณ์เล็ก ๆน้อย ๆในนั้นวันในการก่อสร้างถนนในภูเขา สำหรับพวกเขาความพยายามครั้งแรกที่พวกเขาใช้ในการก่อสร้างถนนเดียวกันเทคนิค บนที่ราบเรียบ ขยายแต่ละด้านอย่างกว้างขวาง แต่ในช่วงฤดูฝนดินและส่วนของถนน ] จะถูกกัดเซาะล้างออกไป เจ้าหญิงของแม่ที่กล่าวถึงนี้ปัญหากับฝ่าบาทที่นอกจากที่เธออาศัยอยู่ในพระราชวัง [ กรุงเทพ ] ฝ่าบาทแนะนำเธอให้หญ้าแฝกบนดอยตุงเมื่อเขาได้อ่านในรายงานของธนาคารโลกว่า หญ้าแฝกหญ้า สามารถช่วยป้องกันการกัดเซาะดิน เจ้าหญิงแม่เอาคำแนะนำของเขา และนำหญ้าแฝกจากอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา และตำบลขุนทะเล อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อดอยตุง ซึ่งเธอมีพล็อตของหญ้าแฝกที่ปลูกองค์หญิงแม่เข้าชมแปลงมากมายครั้ง และพยายามปลูกบางด้วยตัวเองเมื่อหญ้าเติบโตแข็งแกร่งเพียงพอ เธอแนะนำให้ตรวจสอบเพื่อดูว่าแข็งแรง รากอยู่ และไม่ว่าพวกเขาจะเข้มแข็งพอเพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน เราทำตามที่เขาสั่งขุดหญ้า และฉีดพ่นน้ำบนรากล้างดินออกไป เราพบหญ้าแฝกหญ้า หลัง 9 เดือน มีการปลูกรากขึ้น3 ถึง 4 เมตรยาว เติบโตในกระจุกหนา ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มาที่ไปเที่ยวดอยตุง วิลล่า กังวลพาพวกเขาไปดูหญ้าแฝก แปลง ผลของวิสัยทัศน์ขององค์หญิงแม่ และ ปัญญาฝ่าบาท ตอนนี้เราสามารถใช้หญ้าแฝกหญ้าเพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน" ตอนนี้ ถ้าคุณไปถึงดอยตุง ท่านจะเห็นหญ้าแฝกที่ปลูกตามแนวถนน และในการชะล้างพังทลายของดิน หมู่บ้านที่เคยอาละวาดหลายคนตอนนี้ทำให้สนามเยือนดอยตุงศึกษาการใช้หญ้าแฝก "ม.ร.ว. ดิศนัดดา ดิศกุล เลขาธิการแล้ว