INDONESIAIndonesia's external posit

INDONESIA
Indonesia's external position is far more comfortable than it was before the Asian financial crisis. Its current account recorded an estimated surplus of 2.6% of GDP in 2006, compared with a deficit of 3% of GDP in 1996. Its foreign-exchange reserves now cover 5.2 months of imports, compared with 3.9 months before the crisis. External debt ratios have fallen dramatically. Furthermore, unlike before the crisis when the currency was pegged at an artificially high exchange rate, the exchange rate has been allowed to adjust with some freedom in recent years, meaning it is less vulnerable to speculative attack.

The caution created by the financial crisis has left the banking sector far more stable. The ratio of loans to assets has fallen considerably and borrowing in foreign currencies has been reduced, meaning there is less repayment risk associated with currency volatility.

But if Indonesia has successfully reduced macroeconomic and financial vulnerabilities, it has failed to convince investors that it has repaired the cracks in its business environment that the crisis exposed. Even as recently as 2006, real investment had not returned to its pre-crisis level. Corruption is still perceived to be rife despite a high-profile crackdown, legal uncertainty is still a concern, and bureaucracy remains problematic.

There are signs that this may be beginning to change. A new investment law shows that the government is becoming more intent on making it easier to conduct business in Indonesia, and investment figures for the past two quarters have been very encouraging. One of the biggest changes for the better in Indonesia since the 1997-98 crisis has been the shift to a more democratic political system. This offers hope that governance can improve further. If political stability is maintained, Indonesia could be about to experience an investment boom that finally breathes life into the economy again.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อินโดนีเซียตำแหน่งภายนอกของอินโดนีเซียจะสะดวกสบายมากขึ้นกว่าเดิมวิกฤตการเงินเอเชีย บัญชีของบันทึกส่วนเกินที่ประมาณ 2.6% ของ GDP ในปี 2006 เมื่อเทียบกับขาดดุล 3% ของ GDP ในปี 1996 ของประเทศจองเดือน 5.2 ของนำเข้า เมื่อเทียบกับเดือน 3.9 ก่อนวิกฤติขณะนี้ครอบคลุม อัตราส่วนหนี้ภายนอกได้ลดลงอย่างมาก นอกจากนี้ ซึ่งแตกต่างจากก่อนวิกฤติ เมื่อสกุลเงินเป็น pegged ที่อัตราแลกเปลี่ยนสูงเหือด อัตราแลกเปลี่ยนยังได้รับอนุญาตปรับกับเสรีภาพบางในปีที่ผ่านมา ความหมาย ก็น้อยเสี่ยงมาตรการข้อควรระวังโดยวิกฤตการเงินจากภาคการธนาคารมีเสถียรภาพมากขึ้น อัตราส่วนของเงินให้สินเชื่อสินทรัพย์ลดลงอย่างมาก และเงินกู้ยืมในสกุลเงินต่างประเทศได้ลด ลง ความหมาย ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าการชำระค่าเชื่อมโยงกับความผันผวนของสกุลเงินแต่ถ้าอินโดนีเซียได้สำเร็จลดปัญหาเศรษฐกิจมหภาค และการเงิน มันไม่สามารถจะโน้มน้าวให้นักลงทุนว่า ได้ซ่อมแซมรอยแตกในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่วิกฤติสัมผัส แม้ว่าล่าสุดเป็น 2006 ลงทุนจริงมีไม่ส่งคืนสู่ระดับก่อนเกิดวิกฤต ยังถือว่ามีการทุจริตจะ rife แม้จะเป็นทรงสูงปราบปราม กฎหมายความไม่แน่นอนยังคงเป็นกังวล และระบบราชการยังคงมีปัญหามีสัญญาณที่นี้อาจจะเริ่มเปลี่ยนแปลง กฎหมายลงทุนใหม่แสดงว่า รัฐบาลเป็นยิ่งนึกทำธุรกิจในอินโดนีเซีย และตัวเลขการลงทุนสำหรับไตรมาสสองที่ผ่านมาได้รับกำลังใจมาก หนึ่งของการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดดีกว่าในอินโดนีเซียตั้งแต่ปี 1997-98 วิกฤตการณ์แล้วกะไประบบการเมืองประชาธิปไตยมากขึ้น นี้มีความหวังที่ช่วยกำกับดูแลเพิ่มเติม ถ้าเป็นรักษาเสถียรภาพทางการเมือง อินโดนีเซียอาจจะเพื่อ ประสบการณ์การลงทุนบูมที่สุด เซ็ทชีวิตเข้าสู่เศรษฐกิจอีกครั้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อินโดนีเซียตำแหน่งภายนอกของอินโดนีเซียอยู่ไกลสะดวกสบายมากขึ้นกว่า แต่ก่อนวิกฤตทางการเงินในเอเชีย
บัญชีปัจจุบันของบันทึกการเกินดุลประมาณ 2.6% ของ GDP ในปี 2006 เมื่อเทียบกับการขาดดุล 3% ของ GDP ในปี 1996 ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศตอนนี้มันครอบคลุม 5.2 เดือนของการนำเข้าเมื่อเทียบกับ 3.9 เดือนก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ อัตราส่วนหนี้ต่างประเทศได้ลดลงอย่างมาก นอกจากนี้ไม่เหมือนก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อสกุลเงินที่ถูกตรึงในอัตราแลกเปลี่ยนที่สูงเทียมที่อัตราแลกเปลี่ยนที่ได้รับอนุญาตให้ปรับกับเสรีภาพในปีที่ผ่านมาบางส่วนซึ่งหมายความว่ามันจะมีความเสี่ยงน้อยที่จะโจมตีการเก็งกำไร. ความระมัดระวังที่สร้างขึ้นโดยวิกฤตการณ์ทางการเงินที่มี เหลือภาคธนาคารที่มีเสถียรภาพมากขึ้น อัตราส่วนของเงินให้กู้ยืมแก่สินทรัพย์ได้ลดลงอย่างมากและเงินกู้ยืมในสกุลเงินต่างประเทศที่ได้รับการลดความหมายมีความเสี่ยงการชำระหนี้น้อยที่เกี่ยวข้องกับความผันผวนของสกุลเงิน. แต่ถ้าอินโดนีเซียได้ลดลงอย่างประสบความสำเร็จช่องโหว่เศรษฐกิจมหภาคและการเงินก็ล้มเหลวที่จะโน้มน้าวให้นักลงทุนที่จะได้รับการซ่อมแซม รอยแตกในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่วิกฤตสัมผัส แม้ในขณะที่เมื่อเร็ว ๆ นี้ปี 2006 การลงทุนที่แท้จริงไม่ได้กลับไปที่ระดับก่อนวิกฤตของมัน และปราบปรามการทุจริตยังคงเป็นที่รับรู้ว่าเป็นที่อุดมไปแม้จะมีการปราบปรามรายละเอียดสูง, ความไม่แน่นอนทางกฎหมายที่ยังคงกังวลและระบบราชการยังคงมีปัญหา. มีสัญญาณว่านี้อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะเปลี่ยนเป็น กฎหมายการลงทุนใหม่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลจะกลายเป็นความตั้งใจที่มากขึ้นในการทำให้มันง่ายขึ้นในการดำเนินธุรกิจในประเทศอินโดนีเซียและตัวเลขการลงทุนที่ผ่านมาสองไตรมาสได้รับกำลังใจที่ดี หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้ดีขึ้นในอินโดนีเซียตั้งแต่วิกฤต 1997-1998 ได้รับการเปลี่ยนไปใช้ระบบการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น นี้มีความหวังว่าการกำกับดูแลสามารถปรับปรุงต่อไป ถ้าความมั่นคงทางการเมืองจะยังคงอินโดนีเซียอาจจะเกี่ยวกับประสบการณ์การบูมการลงทุนที่ในที่สุดก็หายใจชีวิตเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอีกครั้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อินโดนีเซียอินโดนีเซียภายนอกตำแหน่งไกลสะดวกสบายมากขึ้นกว่า แต่ก่อนวิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย . บันทึกบัญชีปัจจุบันประมาณร้อยละ 2.6 % ของ GDP ในปี 2549 เมื่อเทียบกับขาดดุลร้อยละ 3 ของ GDP ในปี 1996 สำรองเงินตราต่างประเทศของตอนนี้ครอบคลุม 5.2 เดือนของการนำเข้าเมื่อเทียบกับ 3.9 เดือนก่อนวิกฤต อัตราส่วนหนี้ต่างประเทศได้ลดลงอย่างมากนอกจากนี้ แตกต่างจากก่อนวิกฤตเมื่อแลกเป็น pegged ที่อัตราแลกเปลี่ยนเทียมสูง อัตราแลกเปลี่ยนที่ได้รับอนุญาตให้ปรับ มีเสรีภาพใน ปี ล่าสุด ความหมายมันมีความเสี่ยงน้อยที่จะโจมตีไร

ข้อควรระวังที่สร้างโดยวิกฤตการเงินจากภาคธนาคารไกลมีเสถียรภาพมากขึ้นอัตราส่วนสินเชื่อต่อสินทรัพย์ลดลงมาก และการกู้ยืมเงินในสกุลเงินตราต่างประเทศได้ลดลง หมายความว่า มีการชำระคืนน้อยกว่าความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความผันผวนของสกุลเงิน .

แต่ถ้าอินโดนีเซียได้ลดลง เศรษฐกิจมหภาคและการเงิน ช่องโหว่ มันล้มเหลวที่จะโน้มน้าวให้นักลงทุนได้ซ่อมแซมรอยแตกในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจของวิกฤติแล้วแม้ล่าสุดเป็นปี 2006 การลงทุนที่แท้จริงไม่ได้กลับไปเป็นก่อนวิกฤตระดับ การทุจริตยังคงรับรู้จะมากมาย แม้จะมีการปราบปรามโด่ง ความไม่แน่นอนทางกฎหมายยังคงเป็นกังวล และระบบราชการที่ยังคงมีปัญหา

มีสัญญาณนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นในการเปลี่ยนแปลง .กฎหมายการลงทุนใหม่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลเป็นเจตนาที่ทำให้ง่ายต่อการดำเนินธุรกิจในอินโดนีเซีย และตัวเลขการลงทุนสำหรับที่ผ่านมาสองไตรมาสได้รับการกระตุ้นมาก หนึ่งของการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดสำหรับที่ดีขึ้นในอินโดนีเซียตั้งแต่ 1997-98 วิกฤตการณ์ได้ถูกเปลี่ยนเป็นระบบการเมืองแบบประชาธิปไตยมากขึ้น นี้เสนอหวังว่ากิจการสามารถปรับปรุงเพิ่มเติมถ้าเสถียรภาพทางการเมืองจะยังคง อินโดนีเซียอาจจะเกี่ยวกับประสบการณ์การลงทุนบูมว่าในที่สุดหายใจชีวิตเข้าไปในระบบเศรษฐกิจอีกครั้ง

.