To the extent that this microhistor

To the extent that this microhistory of the ordinary takes inspiration from anthropology, it does not look to Durkheim, or even Geertz, who share important assumptions about the uniformity of cultures and the social scientist's ability to find a single key to those cultures. It relies much more heavily on Erving Goffman's work on social interactions, and the Norwegian Fredrik Barth's stress on the incoherences, heterogeneities and conflicts within cultures, best grasped on a “micro” level. This microhistory claims not to read a culture as a static text, but rather to investigate processes of change and conflict in as detailed a manner as possible. In this sense, as Jacques Revel has noted, it remains close to “the old dream of a total history, but this time reconstructed from the bottom up.” It also tends to pay very close attention to the ordinary conventions and formulae employed in its sources, because to a large extent its purpose is precisely to track and understand changes in the conventions and categories through which individuals understand the social world.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แค่นี้ microhistory ปกติใช้แรงบันดาลใจจากมานุษยวิทยา มันไม่ดู Durkheim หรือแม้กระทั่ง Geertz ที่สมมติฐานสำคัญเกี่ยวกับความรื่นรมย์ของวัฒนธรรมและความสามารถของนักวิทยาศาสตร์สังคมหาคีย์เดียวกับวัฒนธรรมที่ใช้ร่วมกัน มันจะหนักมาก Erving Goffman ทำงานโต้ตอบทางสังคม และความเครียดของ Barth นอร์เวย์ Fredrik incoherences, heterogeneities และความขัดแย้งภายในวัฒนธรรม grasped ส่วนระดับ "ไมโคร" Microhistory นี้อ้างว่า ไม่อ่านวัฒนธรรมเป็นข้อความคง แต่แทนที่จะไปตรวจสอบกระบวนการของการเปลี่ยนแปลง และความขัดแย้งในเป็นรายละเอียดที่สุด ในความรู้สึกนี้ เป็นจุด ๆ Jacques ได้ระบุไว้ จะยังคงใกล้กับ "ฝันเก่าประวัติรวม แต่เวลานี้เชิดจากด้านล่างขึ้น" มันยังมีแนวโน้มที่สนใจมีการประชุมสามัญและลูกจ้างในแหล่ง สูตรเนื่องจากขอบเขตขนาดใหญ่ วัตถุประสงค์เป็นการ ติดตาม และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงในแบบแผนและประเภทที่บุคคลเข้าใจโลกทางสังคม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เท่าที่ microhistory จากสามัญนี้จะเป็นแรงบันดาลใจจากมานุษยวิทยาก็ไม่ได้มองไปที่ Durkheim หรือแม้กระทั่ง Geertz ที่แบ่งปันสมมติฐานที่สำคัญเกี่ยวกับความสม่ำเสมอของวัฒนธรรมและความสามารถของนักวิทยาศาสตร์ทางสังคมที่จะหาคีย์เดียวกับวัฒนธรรมเหล่านั้น มันอาศัยอย่างหนักมากขึ้นในการทำงาน Erving Goffman ในการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและความเครียดนอร์เวย์ Fredrik รธ์ใน incoherences ที่ heterogeneities และความขัดแย้งภายในวัฒนธรรมลงโทษที่ดีที่สุดในระดับ "จิ๋ว" microhistory นี้อ้างไม่อ่านวัฒนธรรมเป็นข้อความแบบคงที่ แต่จะตรวจสอบกระบวนการของการเปลี่ยนแปลงและความขัดแย้งในรายละเอียดลักษณะที่เป็นไปได้ ในแง่นี้เป็นฌา Revel ได้ตั้งข้อสังเกตก็ยังคงใกล้เคียงกับ "ความฝันเก่ามีประวัติรวม แต่เวลานี้สร้างขึ้นจากด้านล่างขึ้น." นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับการประชุมสามัญและสูตรที่ใช้ในการของ แหล่งที่มาเพราะในระดับมากจุดประสงค์ของมันเป็นอย่างแม่นยำในการติดตามและเข้าใจการเปลี่ยนแปลงในการประชุมและประเภทบุคคลที่ผ่านการทำความเข้าใจกับสังคมโลก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ถึงขั้นนี้ microhistory ของธรรมดาต้องใช้แรงบันดาลใจจากมานุษยวิทยา มันไม่ได้ดูเดิร์กไฮม์ , หรือแม้กระทั่ง Geertz ที่ใช้สมมติฐานที่สำคัญเกี่ยวกับความสอดคล้องของวัฒนธรรมและสังคมของนักวิทยาศาสตร์ในการค้นหาคีย์เดียววัฒนธรรมเหล่านั้น มันอาศัยหนักในวิ่ง กัฟแมนทำงานปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและ นอร์เวย์ โดยบาร์ทของความเครียดใน incoherences heterogeneities , และความขัดแย้งภายในวัฒนธรรมที่ดีที่สุด เข้าใจในระดับ " ไมโคร " microhistory นี้อ้างว่า ไม่ได้อ่านวัฒนธรรมเป็นข้อความแบบคงที่ แต่จะศึกษากระบวนการของการเปลี่ยนแปลงและความขัดแย้งในรายละเอียดลักษณะที่เป็นไปได้ ในความรู้สึกนี้ , ฌาคส์ เฮฮาได้กล่าวไว้มันยังคงอยู่ใกล้ " เก่า ความฝันของประวัติศาสตร์ทั้งหมด แต่ครั้งนี้สร้างขึ้นจากด้านล่างขึ้น มันก็มีแนวโน้มที่จะจ่ายปิดสนใจมากในการประชุมสามัญและสูตรที่ใช้ในแหล่งที่มาของมัน เพราะในขอบเขตขนาดใหญ่ มีวัตถุประสงค์แน่นอน เพื่อติดตาม และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงในข้อตกลง และประเภทที่บุคคล เข้าใจโลกสังคม