Families and ideologiesIn studies o

Families and ideologies

In studies of kinship and the family, anthropologists are increasingly looking at discrepancies between ideology and lived practice, at differences based on class, region, or race and ethnicity, and at the relationship between the state and the family. Goody’s (1983) historical work on the family in Europe specifically linked changes in marriage rules and in inheritance patterns and dowry payments within families to developments within the church and the state, thereby emphasizing the changing nature of family and property relations in the context of external power structures. Feminist social scientists have examined the relationship between gender and family, arguing that the ideology which represents the conjugal family and the household as ‘natural’ units serves to mask inequalities arising from an association of women with reproduction and men with production, a division which renders a great deal of women’s labour invisible. Similarly, social historians have shown that this association of women with the domestic sphere and men with the politico-jural or productive domain was historically specific, arising in Britain in the nineteenth century with the growing influence of a middle-class morality which promoted government legislation removing children from the labour force, relegating their care to women, and representing women as the core of the household, the ‘haven in a heartless world’ to which men could return after their long day in the brutal world of commerce and waged labour. These theories stress the links between capitalism, state legislation and changes in family ideologies, and emphasize the different ideologies of gender and family which obtained at various specific periods among different classes.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ครอบครัวและอุดมการณ์ในการศึกษาและเป็นครอบครัว นักมานุษยวิทยากำลังมากขึ้นมอง ที่ความขัดแย้งระหว่างอุดมการณ์และการปฏิบัติที่อาศัยอยู่ ความแตกต่างตามระดับ ภูมิภาค หรือแข่งขัน และเชื้อชาติ และความสัมพันธ์ระหว่างรัฐและครอบครัว คนดีของครอบครัวในยุโรปในงานประวัติศาสตร์ (1983) เชื่อมโยงโดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลง ในกฎการแต่งงาน และสืบทอดรูปแบบและการชำระเงินสินสอดทองหมั้นภายในครอบครัวการพัฒนาภายในโบสถ์และรัฐ จึงเน้นลักษณะการเปลี่ยนแปลงของครอบครัวและทรัพย์สินสัมพันธ์ในบริบทของโครงสร้างอำนาจภายนอก นักวิทยาศาสตร์สังคมสตรีมีการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างเพศและครอบครัว การโต้เถียงที่ อุดมการณ์ซึ่งหมายถึงครอบครัว conjugal และครัวเรือนเป็นหน่วย 'ธรรมชาติ' จะทำหน้าที่นัดหน้ากากที่เกิดจากความสัมพันธ์ของผู้หญิงกับผู้ชายกับการผลิต ส่วนที่ทำให้มองไม่เห็นแรงงานผู้หญิงจำนวนมาก และสืบพันธุ์ ในทำนองเดียวกัน สังคมนักประวัติศาสตร์ได้แสดงให้เห็นว่าสมาคมนี้ผู้หญิงทรงกลมภายในประเทศและผู้ชายที่ มีโดเมน politico jural หรือผลิตเฉพาะในอดีต เกิดขึ้นในสหราชอาณาจักรในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ด้วยอิทธิพลของจริยธรรมชั้นกลางซึ่งการเอาเด็กออกจากกำลังแรงงาน กฎหมายของรัฐบาลได้ส่งเสริม เติบโตอุบัติเหตุดูแลของพวกเขากับผู้หญิง และเป็นตัวแทนผู้หญิงเป็นหลักของบ้าน 'สวรรค์ในโลกค้นพบ' ที่ผู้ชายสามารถกลับหลังจากวันที่แสนยาวนานของพวกเขาในโลกที่โหดร้ายและแรงงาน waged ทฤษฎีเหล่านี้เน้นความเชื่อมโยงระหว่างทุนนิยม รัฐออกกฎหมาย และการเปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ครอบครัว และเน้นอุดมการณ์แตกต่างกันของเพศและครอบครัวที่ได้รับในรอบระยะเวลาเฉพาะต่าง ๆ ระหว่างเรียนแตกต่างกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ครอบครัวและอุดมการณ์

ในการศึกษาของเครือญาติและครอบครัวของนักมานุษยวิทยามากขึ้นมองที่แตกต่างระหว่างอุดมการณ์และการปฏิบัติที่อาศัยอยู่ที่ความแตกต่างขึ้นอยู่กับระดับภูมิภาคหรือเชื้อชาติและชาติพันธุ์และความสัมพันธ์ระหว่างรัฐและครอบครัว (1983) การทำงานในอดีตคนดีของครอบครัวในยุโรปที่เชื่อมโยงโดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงกฎการแต่งงานและในรูปแบบการถ่ายทอดทางพันธุกรรมและการชำระเงินสินสอดทองหมั้นที่อยู่ในครอบครัวที่จะพัฒนาภายในโบสถ์และรัฐจึงเน้นลักษณะการเปลี่ยนแปลงของครอบครัวและทรัพย์สินของความสัมพันธ์ในบริบทของภายนอก โครงสร้างอำนาจ สังคมนักวิทยาศาสตร์สตรีมีการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างเพศและครอบครัวเถียงว่าอุดมการณ์ซึ่งเป็นตัวแทนของครอบครัวการสมรสและครอบครัวเป็นหน่วยธรรมชาติ 'ทำหน้าที่ในการปกปิดความไม่เท่าเทียมกันที่เกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ของผู้หญิงที่มีการทำสำเนาและผู้ชายที่มีการผลิตส่วนที่วาทกรรม การจัดการที่ดีของการใช้แรงงานของผู้หญิงที่มองไม่เห็น ในทำนองเดียวกันประวัติศาสตร์สังคมได้แสดงให้เห็นว่าสมาคมของผู้หญิงนี้กับทรงกลมในประเทศและคนที่มีโดเมนการเมือง jural หรือการผลิตเป็นที่เฉพาะเจาะจงในอดีตที่เกิดขึ้นในสหราชอาณาจักรในศตวรรษที่สิบเก้าที่มีอิทธิพลต่อการเติบโตของศีลธรรมของชนชั้นกลางซึ่งการเลื่อนการออกกฎหมายของรัฐบาล เอาเด็กจากแรงงานผลักไสดูแลของพวกเขาให้กับผู้หญิงและเป็นตัวแทนของผู้หญิงเป็นหลักของครัวเรือนที่ 'สวรรค์ในโลกใจร้าย' ที่คนอาจกลับมาหลังจากวันที่ยาวนานของพวกเขาในโลกที่โหดร้ายของการค้าและการเข้าร่วมแรงงาน ทฤษฎีเหล่านี้เน้นการเชื่อมโยงระหว่างระบบทุนนิยมรัฐออกกฎหมายและการเปลี่ยนแปลงในอุดมการณ์ครอบครัวและเน้นอุดมการณ์ที่แตกต่างของเพศและครอบครัวที่ได้รับในช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจงต่างๆในหมู่เรียนแตกต่างกัน