Viharn Pra Mongkolborpit is situate

Viharn Pra Mongkolborpit is situated on the south of Wat Prasrisanpetch.
The story of viharn pra mongkolborpit is in the era of King Suer, a thunderbolt struck at the tip of the dome which causes damage to the dome. The King ordered to restore the dome and change the roof of the dome to a cathedral and the top of Pra Mongkolborpit was extended during the reign of King Barommakote. During the 2nd fall of Ayuttaya, Viharn Pra Mongkolborpit was ruined by the enemy. After that King Rama 5 ordered to restore this viharn again in the Ayuttaya architectural style. It is a good model of the Buddha image during the end of Ayuttaya reign.

Originally, the east side of the viharn is Sanam Luang, which was used for the cremation ceremony of the Kings and the royalties same as the Sanam Luang in Bangkok.
Viharn Pramongkolborpit is opened on from 8 a.m. to 4.30 p.m. and 8 a.m. to 5 p.m. on weekends and public holidays. The tourists can visit Wat Prasrisanpetch or visit both temples via riding on elephants from Wang Chang Ayuttaya.

This is Pra Mongkolborpit. the bronze Buddha image in the attitude of subduing Mara is situated. This Buddha image has a lap measurement at 9.55 metres and height at 12.45 metres. This is one of the biggest Buddha image in Thailand. It was assumed to be built during the Ayuttaya Era of King Srongtam. The King transferred the location from the east side to the west side which has been the location since then.


the life of the Lord Buddha. The most common attitude of a seated Buddha image is the attitude of subduing Mara. In this attitude the Buddha is seated with the legs crossed, the right hand is on the right knee with the four fingers pointing to the ground, while the left hand rests in the lap. This is also known as the attitude of calling the Goddess of the Earth to witness. This is related to the time when the Lord Buddha was about to attain his enlightenment. He was attacked by Mara (a personification of evil) and his army. The Lord Buddha summoned the Goddess of the Earth to witness the attack and to save him by pointing the four fingers of the right hand to the ground. ThStanding Buddhae Goddess of the Earth emerged and saved him by wringing the water of merit from her hair to drown Mara and his army. In this way Mara was subdued. Thus this attitude is known as subduing Mara.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

องค์พระ Mongkolborpit ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของวัด Prasrisanpetchเรื่องราวขององค์พระ mongkolborpit อยู่ในยุคของกษัตริย์ Suer ฟ้าหลงในคำแนะนำของโดมที่ทำให้เกิดความเสียหายโดม พระราชาสั่งให้คืนตัวโดม และเปลี่ยนหลังคาโดมมหาวิหาร และมีขยายด้านบนของพระ Mongkolborpit ในรัชสมัยของกษัตริย์ Barommakote ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง 2 ของเจริญ Mongkolborpit พระองค์ถูกเจ๊ง โดยข้าศึก หลังจากที่ รัชกาลที่ 5 สั่งให้คืนค่าองค์นี้อีกครั้งในรูปแบบสถาปัตยกรรมเจริญ เป็นแบบที่ดีของพระพุทธรูปช่วงรัชกาลเจริญ เดิม ด้านตะวันออกขององค์ในเป็นหลวง ซึ่งถูกใช้ในพิธีเผาศพของกษัตริย์และค่าภาคหลวงที่ เดียวกับท้องสนามหลวงในกรุงเทพมหานครPramongkolborpit องค์เปิดบนจาก 8.00 น.ถึง 16.30 น.และ 8.00 น.กับ 17.00 น.ในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมวัด Prasrisanpetch หรือเยี่ยมชมวัดทั้งทางขี่บนช้างจากวังช้างเจริญนี่คือพระ Mongkolborpit ทองแดงพระพุทธรูปในทัศนคติของ subduing โรงแรมมาราอยู่ พระพุทธรูปนี้มีวัดตักที่ 9.55 เมตรและสูง 12.45 เมตรที่ นี้เป็นหนึ่งของพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มันถูกสันนิษฐานจะถูกสร้างขึ้นในยุคเจริญ Srongtam คิง พระโอนตำแหน่งจากด้านตะวันออกไปฝั่งตะวันตกซึ่งได้รับตำแหน่งตั้งแต่นั้น ชีวิตของพระพุทธเจ้า ทัศนคติของโรงแรมมารา subduing ทัศนคติทั่วไปของพระพุทธรูปนั่งได้ ในทัศนคตินี้พระที่นั่ง ด้วยขาข้าม มือขวาอยู่บนเข่าขวากับมือสี่ชี้ไปพื้นดิน ในขณะที่มือซ้ายอยู่ในตัก นี่คือเรียกอีกอย่างว่าทัศนคติของเรียกเทพเจ้าแห่งโลกเป็นสักขีพยาน นี้จะเกี่ยวข้องกับเวลาเมื่อพระพุทธเจ้ามีการ บรรลุธรรมของเขา เขาถูกโจมตี โดยโรงแรมมารา (บุคลาธิษฐานของความชั่วร้าย) และกองทัพของเขา พระพุทธเจ้าเรียกเทพเจ้าแห่งโลกเป็นสักขีพยานการโจมตี และจะ โดยชี้นิ้วสี่ของมือขวาไปพื้นดิน ThStanding Buddhae เจ้าของแผ่นดินเกิด และเขาบันทึก โดย wringing น้ำบุญจากผมของเธอต้องตายแน่ ๆ โรงแรมมาราและกองทัพของเขา โรงแรมมาราไม่ทำวิธีนี้ ดังนั้น ทัศนคตินี้เรียกว่า subduing โรงแรมมารา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิหารพระ Mongkolborpit ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของวัด Prasrisanpetch.
เรื่องราวของพระวิหาร mongkolborpit อยู่ในยุคของกษัตริย์ Suer, สายฟ้าฟาดที่ปลายสุดของโดมที่ทำให้เกิดความเสียหายให้กับโดม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้รับคำสั่งให้เรียกคืนโดมและเปลี่ยนหลังคาโดมวิหารและด้านบนของพระ Mongkolborpit ถูกขยายในช่วงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระ Barommakote ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ 2 ของอยุธยา, วิหารพระ Mongkolborpit ถูกทำลายโดยศัตรู หลังจากนั้นรัชกาลที่ 5 ได้รับคำสั่งให้เรียกคืนวิหารนี้อีกครั้งในรูปแบบสถาปัตยกรรมอยุธยา มันเป็นรูปแบบที่ดีของพระพุทธรูปในช่วงปลายรัชสมัยอยุธยา. แต่เดิมทางด้านตะวันออกของวิหารเป็นสนามหลวงซึ่งใช้สำหรับพิธีพระราชทานเพลิงศพของพระมหากษัตริย์และค่าสิทธิเช่นเดียวกับท้องสนามหลวงในกรุงเทพฯ. วิหาร Pramongkolborpit จะเปิด 8:00-16:30 และ 08:00-17:00 วันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมวัด Prasrisanpetch หรือเยี่ยมชมวัดทั้งผ่านการขี่ช้างจากวังช้างอยุธยา. นี้เป็นพระ Mongkolborpit พระพุทธรูปสำริดในทัศนคติของมารวิชัยตั้งอยู่ นี้มีพระพุทธรูปวัดรอบที่ 9.55 เมตรและความสูงที่ 12.45 เมตร นี้เป็นหนึ่งในพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มันได้รับการสันนิษฐานว่าจะถูกสร้างขึ้นในช่วงอยุธยายุคของกษัตริย์ Srongtam คิงโอนสถานที่จากด้านตะวันออกไปทางด้านทิศตะวันตกซึ่งได้รับสถานที่ตั้งแต่นั้น. ชีวิตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทัศนคติที่พบมากที่สุดของพระพุทธรูปนั่งเป็นทัศนคติของมารวิชัย ในทัศนคตินี้พระพุทธรูปนั่งอยู่กับขาข้ามขวามืออยู่บนเข่าขวากับสี่นิ้วชี้ไปที่พื้นดินในขณะที่มือซ้ายวางอยู่บนตัก นี้ยังเป็นที่รู้จักกันเป็นทัศนคติของการเรียกเทพธิดาของโลกเพื่อเป็นสักขีพยาน นี้จะเกี่ยวข้องกับช่วงเวลาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เกี่ยวกับการที่จะบรรลุการตรัสรู้ของเขา เขาถูกโจมตีโดย Mara (ตัวตนของความชั่วร้าย) และกองทัพของเขา พระพุทธเจ้าเรียกเทพธิดาของโลกเพื่อเป็นสักขีพยานการโจมตีและจะช่วยเขาโดยชี้สี่นิ้วของมือข้างขวาลงไปที่พื้น ThStanding Buddhae เทพธิดาของโลกโผล่ออกมาและช่วยเขาโดยการบิดน้ำบุญจากผมของเธอที่จะจมน้ำมารและกองทัพของเขา ด้วยวิธีนี้มารก็สงบ ดังนั้นทัศนคติแบบนี้เป็นที่รู้จักกันมารวิชัย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฝ่ายพระ mongkolborpit ตั้งอยู่ทิศใต้ของวัด prasrisanpetch .
เรื่องราวของฝ่ายพระ mongkolborpit ในยุคของกษัตริย์ผู้ฟ้องร้อง , สายฟ้าฟาดที่ปลายของโดมซึ่งทำให้เกิดความเสียหายกับโดม กษัตริย์สั่งให้ฟื้นฟูโดม และเปลี่ยนหลังคาโดมมหาวิหารและด้านบนของพระ mongkolborpit ขยายในระหว่างรัชสมัยของกษัตริย์ barommakote .ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของพระนครศรีอยุธยา 2 , พระ mongkolborpit ปราสาทพระวิหารถูกทำลายโดยศัตรู หลังจากนั้นรัชกาลที่ 5 สั่งให้ฟื้นฟูปราสาทพระวิหารนี้อีกครั้งในพระนครศรีอยุธยา ลักษณะสถาปัตยกรรม มันเป็นรูปแบบที่ดีของพระพุทธรูปในช่วงปลายรัชกาลอยุธยา .

ตอนแรก ด้านทิศตะวันออกของปราสาทพระวิหาร คือ บริเวณท้องสนามหลวง