ประวัติหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร (วัดหลวงพ่อโสธร)หลวงพ่อโสธรอัน การแปล - ประวัติหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร (วัดหลวงพ่อโสธร)หลวงพ่อโสธรอัน ไทย วิธีการพูด

ประวัติหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรว

ประวัติหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร (วัดหลวงพ่อโสธร)

หลวงพ่อโสธรอันบุญบารมีอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ใครๆ จะปฏิเสธไม่ได้เลย และจะแข่งขันให้เท่าเทียมกันนั้นก็ได้ยาก จะมีบ้างก็บางสถานที่ บางท่านบางคนทั้งยังเป็นสิ่งที่เหนือเหตุผลของการพิสูจน์ ดังที่พระพุทธองค์ตรัสว่า สิ่งมหัศจรรย์นั้นเป็นอจินตัยไม่ควรคิดค้นหาเหตุผล ความศักดิ์สิทธิ์อภินิหารจะดลบันดาลให้เกิดมีเฉพาะผู้มีบุญวาสนา และผู้เลื่อมใสศรัทธาเชื่อมั่นเท่านั้น หลวงพ่อโสธรองค์หนึ่งที่ทรงอานุภาพศักดิ์สิทธิ์มีอภินิหารเป็นพระพุทธรูปที่ทรงอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ เป็นมิ่งขวัญของชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา และเป็นที่รู้จักเคารพบูชาของประชาชนทั้งหลาย หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปที่หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้างประมาณ 1 ศอกเศษ ปรางค์ขัดสมาธิเพชร แต่ได้เสริมแต่งขึ้นจากเดิมโดยพอกปูนลงลักปิดทองให้เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 3ศอก 5 นิ้ว พระเนตรเนื้อเลียนแบบพระสมัยลานช้าง หรือเรียกกันสามัญว่า ?พระลาว? ซึ่งพระชนิดนี้มีชื่อว่าวัดหงษ์

โดยที่วัดนี้มีเสาใหญ่ มีหงษ์เป็นเครื่องหมายติดอยู่กับยอดเสา วัดนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกงด้านทิศตะวันตก สถานที่ตั้งวัดแต่ดั้งเดิมนั้น เวลานี้ถูกน้ำเซาะพังเป็นแม่น้ำไปหมดแล้ว วัดนี้ใครเป็นผู้สร้างและสร้างขึ้นในสมัยใดไม่ปรากฏ แต่ได้ความว่าเป็นวัดเก่าแก่สร้างมานานแล้ว ต้นเหตุที่วัดนี้ได้ชื่อว่า โสทรหรือ โสธร นั้นเล่ากันว่ากาลต่อมาหงษ์ใหญ่ที่ติดอยู่บนยอดเสานั้น พลัดตกลงมาหักทำลายคงเหลือแต่เสา จึงได้เอาผ้าผืนใหญ่ทำเป็นธงขึ้นไปแขวนไว้บนยอดเสาแทนหงษ์ประชาชนก็เลยเรียกชื่อตามนิมิตเครื่องหมายนั้นว่า วัดเสาธง นานมาเสาธงนี้ได้ถูกลมพายุพัดหักโค่นลงมาเป็น 2 ท่อน ชาวบ้านก็เลยถือเอานิมิตที่เสาธงหักเป็นท่อนนั้นตั้งเป็นชื่อวัดว่า ?วัดเสาทอน? อยู่สิ้นกาลช้านาน จวบจนถึงสมัยที่มีพระพุทธรูป 3 องค์ พี่น้องล่องลอยน้ำมาจากเหนือ และในจำนวนพระพุทธรูป 3 องค์ นั้นได้อาราธนาอัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานไว้ที่วัดนี้ 1 องค์ คือ หลวงพ่อโสธร และปรางหลังครั้งหลังก่อนหลวงพ่อโสธรจะมีชื่อเรียกมาอย่างไรไม่มีใครทราบ

หลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร

เมื่อได้หลวงพ่อมาไว้สักการะบูชาแล้ว ก็ได้มีท่านผู้รู้ออกความเห็นว่า วัดนี้ยังเรียกชื่อวัดกันไม่แน่นอน จึงพร้อมใจกันเปลี่ยนชื่อวัดเสียใหม่ว่า ?วัดโสทร? อันหมายความว่า วัดพระ 3 องค์ พี่น้องร่วมอุทรเดียวกัน เมื่อเปลี่ยนเป็นชื่อวัดโสทรแล้ว หมู่บ้านและคลองที่ขึ้นอยู่กับวัดนี้ก็ได้นามเปลี่ยนตามวัดไปด้วย เดิมทีเดียววัดนี้ใช้ตัวหนังสือเขียนว่า ?โสทร? ไม่ได้เขียนว่า ?โสธร? ดังปัจจุบันนี้ แต่เนื่องด้วยพระพุทธรูปที่ได้มาคือหลวงพ่อโสธรนั้น มีอานุภาพและความศักดิ์สิทธิ์ที่ปรากฏ และรูปทรงท่านสวยงามมาก จึงได้เขียนและชื่อวัดว่า ?วัดโสธร? ซึ่งมีความหมายว่า ?พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์? มาจนทุกวันนี้
คำว่า ?โสธร? นี้มีพระอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิให้ความเห็นว่า เป็นนามที่ศักดิ์สิทธิ์ (โส) เป็นอักขระสำเร็จรูป ป้องกันทุกข์โศกโรคภัยได้ทั้งปวง (ธ) นั้นเป็นพยัญชนะอำนาจ มีตบะเดชานุภาพ (ร) เป็นอักษรมหานิยมเป็นที่ชื่นชมของเทวดาและมนุษย์

เมื่อ พ.ศ.2458 สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรสพระสังฆราชเสด็จมาตรวจการคณะสงฆ์ที่วัดโสธร ทรงสันนิษฐานว่า ผู้ที่ให้ชื่อวัดนี้ไม่ใช่คนที่ไม่รู้ เพราะเป็นนามที่ไพเราะทั้งแปลก็ได้ใจความดังนี้ หลวงพ่อโสธรมาประดิษฐานอยู่ที่วัดโสธรนานเท่าใด ไม่มีใครทราบได้แน่นอนพอจะมีเค้าตามคำบอกเล่าอันเกี่ยวโยงถึง หลวงพ่อวัดบ้านแหลมจังหวัดสมุทรสงครามและหลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน จังหวัดสมุทรปราการว่า เป็นพระพุทธรูปที่ลอยน้ำมาด้วยกัน และเป็นพระพี่น้องกันและชาวบ้านแหลมได้อัญเชิญหลวงพ่อวัดบ้านแหลมขึ้นจากน้ำเมื่อ พ.ศ.2313 จึงคาดคะเนเอาว่าหลวงพ่อก็คงมาประดิษฐานอยู่ที่วัดโสธรราว พ.ศ.2313 หรือก่อนนั้นก็ไม่แน่นัก

ประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อโสธรนี้มีผู้เล่าสืบ ๆ กันมาหลายกระแส ได้สอบถามผู้เฒ่าผู้แก่หลายคน ซึ่งท่านเหล่านั้นก็ได้รับฟังมาจากบรรพบุรุษเล่าให้ฟังต้องกันว่า ?หลวงพ่อโสธร? ลอยน้ำมาตามคำว่า มีพระพี่น้องชายกัน 3 องค์ อยู่ทางเมืองเหนือแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ล่องลอยมาตามแม่น้ำจากทางทิศเหนือ เรื่อยมาจามลำแม่น้ำเจ้าพระยา ในที่สุดมาผุดขึ้นใน แม่น้ำบางปะกง ณ ที่ตำบลหนึ่ง และแสดงปาฏิหารย์ลอยทวนกระแสน้ำให้ประชาชนเห็นทั้ง 3 องค์ ประชาชนแถบนั้นต่างพร้อมใจกันอาราธนาเอาเชือกพรวนมนิลาลงไปผูกมัดที่องค์หลวงพ่อทั้ง 3 แล้วช่วยกันฉุดลากขึ้นฝั่งด้วยจำนวนผู้คนประมาณ 500 กว่าคนก็ฉุดขึ้นไม่ได้ เชือกขนาดใหญ่ที่ผูกองค์หลวงพ่อทั้ง 3 ก็ขาดฉุดไม่สำเร็จตามความประสงค์ ครั้นแล้วหลวงพ่อทั้งสามองค์ก็จมน้ำหายไปต่อหน้าคนทั้งหมด สถานที่พระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ ได้ลอยทวนน้ำมานั้นเลยได้ชื่อว่า ?ตำบลสามพระทวน? แต่ต่อมากลับเรียกว่า สัมปทวน ได้แก่แม่น้ำหน้าวัดสมปทวน อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ทุกวันนี้

พระอุโบสถ วัดโสธรวรารามวรวิหาร

ต่อจากนั้นพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ ก็ล่องลอยตามแม่น้ำบางปะกง เลยผ่านหน้าวัดโสธรไปถึงคุ้งน้ำใต้วัดโสธร แสดงอภินิหารผุดขึ้นให้ชาวบ้านบางนั้นเห็น ชาวบ้านได้ช่วยกันอาราธนาฉุดขึ้นฝั่งทำนองเดียวกันกับชาวสัมปทวน แต่ก็ไม่สำเร็จหมู่บ้านบางนั้นจึงได้ชื่อว่า บางพระ มาจนทุกวันนี้ จากนั้นพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ก็ล่องลอยทวนน้ำขึ้นมาถึงและลอยวนอยู่ที่หัวเลี้ยว ตรงกองพันทหารช่างที่ 2 ปัจจุบัน สถานที่พระพุทธรูปทั้ง 3 องค์มาลอยวนอยู่นั้นจึงเรียกกันว่า แหลมหัววน และได้จมน้ำหายไปหลังจากนั้นพระพุทธรูปองค์พี่ใหญ่ ได้แสดงอิทธิฤทธิ์ปฏิหาริย์ ล่อยลอยไปผุดขึ้นที่ลำน้ำแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม ประชาชนชาวประมงอาราธนาขึ้นได้ และประดิษฐานเป็นมิ่งขวัญอยู่ที่วัดบ้านแหลมเราเรียกว่า หลวงพ่อวัดบ้านแหลม ทุกวันนี้เป็นที่บูชานับถือกันว่าเป็นพระที่ศักดิ์สิทธิ์ทัดเทียมกับหลวงพ่อโสธร ส่วนองค์สุดท้องได้แสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ลอยล่องไปผุดขึ้นที่ปากคลองสำโรง ชาวบ้านแถบนั้นได้อาราธนาขึ้นแพใช้เรือพายลายจูง ทั้งอธิษฐานว่าจะขึ้นเป็นมิ่งขวัญที่ใด ก็ขอให้แพนั้นจงหยุดอยู่กับที่ แล้วล่องมาตามลำคลองแพนั้นก็มาหยุดอยู่หน้าวัดบางพลีใหญ่ใน
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ประวัติหลวงพ่อโสธรวัดโสธรวรารามวรวิหาร (วัดหลวงพ่อโสธร)หลวงพ่อโสธรอันบุญบารมีอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ใคร ๆ จะปฏิเสธไม่ได้เลยและจะแข่งขันให้เท่าเทียมกันนั้นก็ได้ยากจะมีบ้างก็บางสถานที่บางท่านบางคนทั้งยังเป็นสิ่งที่เหนือเหตุผลของการพิสูจน์ดังที่พระพุทธองค์ตรัสว่าสิ่งมหัศจรรย์นั้นเป็นอจินตัยไม่ควรคิดค้นหาเหตุผลความศักดิ์สิทธิ์อภินิหารจะดลบันดาลให้เกิดมีเฉพาะผู้มีบุญวาสนาและผู้เลื่อมใสศรัทธาเชื่อมั่นเท่านั้นหลวงพ่อโสธรองค์หนึ่งที่ทรงอานุภาพศักดิ์สิทธิ์มีอภินิหารเป็นพระพุทธรูปที่ทรงอานุภาพศักดิ์สิทธิ์เป็นมิ่งขวัญของชาวจังหวัดฉะเชิงเทราและเป็นที่รู้จักเคารพบูชาของประชาชนทั้งหลายหลวงพ่อโสธรเป็นพระพุทธรูปที่หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์หน้าตักกว้างประมาณ 1 ศอกเศษปรางค์ขัดสมาธิเพชรแต่ได้เสริมแต่งขึ้นจากเดิมโดยพอกปูนลงลักปิดทองให้เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิหน้าตักกว้าง 3ศอก 5 นิ้วพระเนตรเนื้อเลียนแบบพระสมัยลานช้างหรือเรียกกันสามัญว่า? พระลาว ซึ่งพระชนิดนี้มีชื่อว่าวัดหงษ์โดยที่วัดนี้มีเสาใหญ่มีหงษ์เป็นเครื่องหมายติดอยู่กับยอดเสาวัดนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกงด้านทิศตะวันตกสถานที่ตั้งวัดแต่ดั้งเดิมนั้นเวลานี้ถูกน้ำเซาะพังเป็นแม่น้ำไปหมดแล้ววัดนี้ใครเป็นผู้สร้างและสร้างขึ้นในสมัยใดไม่ปรากฏแต่ได้ความว่าเป็นวัดเก่าแก่สร้างมานานแล้วต้นเหตุที่วัดนี้ได้ชื่อว่าโสทรหรือโสธรนั้นเล่ากันว่ากาลต่อมาหงษ์ใหญ่ที่ติดอยู่บนยอดเสานั้นพลัดตกลงมาหักทำลายคงเหลือแต่เสาจึงได้เอาผ้าผืนใหญ่ทำเป็นธงขึ้นไปแขวนไว้บนยอดเสาแทนหงษ์ประชาชนก็เลยเรียกชื่อตามนิมิตเครื่องหมายนั้นว่าวัดเสาธงนานมาเสาธงนี้ได้ถูกลมพายุพัดหักโค่นลงมาเป็น 2 ท่อนชาวบ้านก็เลยถือเอานิมิตที่เสาธงหักเป็นท่อนนั้นตั้งเป็นชื่อวัดว่า? วัดเสาทอน อยู่สิ้นกาลช้านานจวบจนถึงสมัยที่มีพระพุทธรูป 3 องค์พี่น้องล่องลอยน้ำมาจากเหนือและในจำนวนพระพุทธรูป 3 องค์นั้นได้อาราธนาอัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานไว้ที่วัดนี้ 1 องค์คือหลวงพ่อโสธรและปรางหลังครั้งหลังก่อนหลวงพ่อโสธรจะมีชื่อเรียกมาอย่างไรไม่มีใครทราบหลวงพ่อโสธรวัดโสธรวรารามวรวิหารเมื่อได้หลวงพ่อมาไว้สักการะบูชาแล้วก็ได้มีท่านผู้รู้ออกความเห็นว่าวัดนี้ยังเรียกชื่อวัดกันไม่แน่นอนจึงพร้อมใจกันเปลี่ยนชื่อวัดเสียใหม่ว่า? วัดโสทร อันหมายความว่าวัดพระ 3 องค์พี่น้องร่วมอุทรเดียวกันเมื่อเปลี่ยนเป็นชื่อวัดโสทรแล้วหมู่บ้านและคลองที่ขึ้นอยู่กับวัดนี้ก็ได้นามเปลี่ยนตามวัดไปด้วยเดิมทีเดียววัดนี้ใช้ตัวหนังสือเขียนว่า? โสทร ไม่ได้เขียนว่า? โสธร ดังปัจจุบันนี้แต่เนื่องด้วยพระพุทธรูปที่ได้มาคือหลวงพ่อโสธรนั้นมีอานุภาพและความศักดิ์สิทธิ์ที่ปรากฏและรูปทรงท่านสวยงามมากจึงได้เขียนและชื่อวัดว่า? วัดโสธร ซึ่งมีความหมายว่า? พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ มาจนทุกวันนี้คำว่า? โสธร นี้มีพระอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิให้ความเห็นว่าเป็นนามที่ศักดิ์สิทธิ์ (โส) เป็นอักขระสำเร็จรูปป้องกันทุกข์โศกโรคภัยได้ทั้งปวง (ธ) นั้นเป็นพยัญชนะอำนาจมีตบะเดชานุภาพ (ร) เป็นอักษรมหานิยมเป็นที่ชื่นชมของเทวดาและมนุษย์เมื่อ พ.ศ.2458 สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรสพระสังฆราชเสด็จมาตรวจการคณะสงฆ์ที่วัดโสธรทรงสันนิษฐานว่าผู้ที่ให้ชื่อวัดนี้ไม่ใช่คนที่ไม่รู้เพราะเป็นนามที่ไพเราะทั้งแปลก็ได้ใจความดังนี้หลวงพ่อโสธรมาประดิษฐานอยู่ที่วัดโสธรนานเท่าใดไม่มีใครทราบได้แน่นอนพอจะมีเค้าตามคำบอกเล่าอันเกี่ยวโยงถึงหลวงพ่อวัดบ้านแหลมจังหวัดสมุทรสงครามและหลวงพ่อโตวัดบางพลีใหญ่ในจังหวัดสมุทรปราการว่าเป็นพระพุทธรูปที่ลอยน้ำมาด้วยกันและเป็นพระพี่น้องกันและชาวบ้านแหลมได้อัญเชิญหลวงพ่อวัดบ้านแหลมขึ้นจากน้ำเมื่อ พ.ศ.2313 จึงคาดคะเนเอาว่าหลวงพ่อก็คงมาประดิษฐานอยู่ที่วัดโสธรราว พ.ศ.2313 หรือก่อนนั้นก็ไม่แน่นักประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อโสธรนี้มีผู้เล่าสืบๆ กันมาหลายกระแสได้สอบถามผู้เฒ่าผู้แก่หลายคนซึ่งท่านเหล่านั้นก็ได้รับฟังมาจากบรรพบุรุษเล่าให้ฟังต้องกันว่า? หลวงพ่อโสธร ลอยน้ำมาตามคำว่ามีพระพี่น้องชายกัน 3 องค์อยู่ทางเมืองเหนือแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ล่องลอยมาตามแม่น้ำจากทางทิศเหนือเรื่อยมาจามลำแม่น้ำเจ้าพระยาในที่สุดมาผุดขึ้นในแม่น้ำบางปะกงณที่ตำบลหนึ่งและแสดงปาฏิหารย์ลอยทวนกระแสน้ำให้ประชาชนเห็นทั้ง3 องค์ประชาชนแถบนั้นต่างพร้อมใจกันอาราธนาเอาเชือกพรวนมนิลาลงไปผูกมัดที่องค์หลวงพ่อทั้ง 3 แล้วช่วยกันฉุดลากขึ้นฝั่งด้วยจำนวนผู้คนประมาณ 500 กว่าคนก็ฉุดขึ้นไม่ได้เชือกขนาดใหญ่ที่ผูกองค์หลวงพ่อทั้ง 3 ก็ขาดฉุดไม่สำเร็จตามความประสงค์ครั้นแล้วหลวงพ่อทั้งสามองค์ก็จมน้ำหายไปต่อหน้าคนทั้งหมดสถานที่พระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ได้ลอยทวนน้ำมานั้นเลยได้ชื่อว่า? ตำบลสามพระทวน แต่ต่อมากลับเรียกว่าสัมปทวนได้แก่แม่น้ำหน้าวัดสมปทวนอำเภอเมืองจังหวัดฉะเชิงเทราทุกวันนี้พระอุโบสถวัดโสธรวรารามวรวิหารต่อจากนั้นพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ก็ล่องลอยตามแม่น้ำบางปะกงเลยผ่านหน้าวัดโสธรไปถึงคุ้งน้ำใต้วัดโสธรแสดงอภินิหารผุดขึ้นให้ชาวบ้านบางนั้นเห็นชาวบ้านได้ช่วยกันอาราธนาฉุดขึ้นฝั่งทำนองเดียวกันกับชาวสัมปทวนแต่ก็ไม่สำเร็จหมู่บ้านบางนั้นจึงได้ชื่อว่าบางพระมาจนทุกวันนี้จากนั้นพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ก็ล่องลอยทวนน้ำขึ้นมาถึงและลอยวนอยู่ที่หัวเลี้ยวตรงกองพันทหารช่างที่ 2 ปัจจุบันสถานที่พระพุทธรูปทั้ง 3 องค์มาลอยวนอยู่นั้นจึงเรียกกันว่าแหลมหัววนและได้จมน้ำหายไปหลังจากนั้นพระพุทธรูปองค์พี่ใหญ่ได้แสดงอิทธิฤทธิ์ปฏิหาริย์ล่อยลอยไปผุดขึ้นที่ลำน้ำแม่กลองจังหวัดสมุทรสงครามประชาชนชาวประมงอาราธนาขึ้นได้และประดิษฐานเป็นมิ่งขวัญอยู่ที่วัดบ้านแหลมเราเรียกว่าหลวงพ่อวัดบ้านแหลมทุกวันนี้เป็นที่บูชานับถือกันว่าเป็นพระที่ศักดิ์สิทธิ์ทัดเทียมกับหลวงพ่อโสธรส่วนองค์สุดท้องได้แสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ลอยล่องไปผุดขึ้นที่ปากคลองสำโรงชาวบ้านแถบนั้นได้อาราธนาขึ้นแพใช้เรือพายลายจูงทั้งอธิษฐานว่าจะขึ้นเป็นมิ่งขวัญที่ใดก็ขอให้แพนั้นจงหยุดอยู่กับที่แล้วล่องมาตามลำคลองแพนั้นก็มาหยุดอยู่หน้าวัดบางพลีใหญ่ใน
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ประวัติหลวงพ่อโสธรวัดโสธร วรารามวรวิหาร เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ใคร ๆ จะปฏิเสธ ไม่ได้เลย จะมีบ้างก็บางสถานที่ ดังที่พระพุทธองค์ตรัสว่า หลวงพ่อโสธร หน้าตักกว้างประมาณ 1 ศอกเศษปรางค์ขัดสมาธิเพชร หน้าตักกว้าง 3 ศอก 5 นิ้ว หรือเรียกกันสามัญว่า? พระลาว? สถานที่ตั้งวัด แต่ดั้งเดิมนั้น ต้นเหตุที่วัดนี้ได้ชื่อว่าโสทรหรือ โสธร พลัดตกลงมาหักทำลายคงเหลือ แต่เสา วัดเสาธง 2 ท่อน ? วัดเสาทอน? อยู่สิ้นกาลช้านานจวบจนถึงสมัยที่ มีพระพุทธรูป 3 องค์พี่น้องล่องลอยน้ำมาจากเหนือ และในจำนวนพระพุทธรูป 3 องค์ 1 องค์คือหลวงพ่อโสธร ก็ได้มีท่านผู้รู้ออกความเห็น ว่าวัดนี้ยังเรียกชื่อวัดกันไม่แน่นอน ? วัดโสทร? อันหมายความว่าวัดพระ 3 องค์พี่น้องร่วมอุทรเดียวกันเมื่อเปลี่ยนเป็นชื่อ วัดโสทรแล้ว ? โสทร? ไม่ได้เขียนว่า? โสธร? ดังปัจจุบันนี้ และรูปทรงท่านสวยงามมากจึงได้ เขียนและชื่อวัดว่า ? วัดโสธร? ซึ่งมีความหมายว่า? พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์? จนทุกวันนี้มาคำว่าได้? โสธร? เป็นนามที่ศักดิ์สิทธิ์ (โส) เป็นอักขระสำเร็จรูปป้องกันทุกข์โศกโรคภัย ได้ทั้งปวง ( ธ ) นั้นเป็นพยัญชนะอำนาจมีตบะเดชานุภาพ (ร) พ.ศ. 2458 ทรงสันนิษฐานว่า วัดบางพลีใหญ่ในจังหวัดสมุทรปราการว่าเป็น พระพุทธรูปที่ลอยน้ำมาด้วยกัน พ.ศ. 2313 พ.ศ. 2313 ๆ กันมาหลายกระแสได้สอบถามผู้ เฒ่าผู้แก่หลายคน ? หลวงพ่อโสธร? ลอยน้ำมาตามคำว่ามีพระ พี่น้องชายกัน 3 องค์ เรื่อยมาจามลำแม่น้ำเจ้าพระยาในที่สุด มาผุดขึ้นในแม่น้ำบางปะกง ณ ที่ตำบลหนึ่ง 3 องค์ 3 500 กว่าคนก็ฉุดขึ้นไม่ได้ 3 ก็ขาดฉุดไม่สำเร็จตามความประสงค์ สถานที่พระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ได้ลอยทวนน้ำมานั้นเลย ได้ชื่อว่า ? ตำบลสามพระทวน? ต่อมา แต่กลับเรียกว่าได้สัมปทวน ได้แก่ แม่น้ำหน้า: ภาพประกอบวัดผู้แต่ง: สมปทวนอำเภอเมืองจังหวัดฉะเชิงเทราทุกวันนี้ที่คุณพระอุโบสถ 3 องค์ก็ล่องลอยตามแม่น้ำบางปะกง บางพระมาจนทุกวันนี้จากนั้นพระพุทธ รูปทั้ง 3 ตรงกองพันทหารช่างที่ 2 ปัจจุบันสถานที่พระพุทธรูปทั้ง 3 องค์มาลอยวนอยู่นั้นจึงเรียก กันว่าแหลมหัววน ได้แสดงอิทธิฤทธิ์ปฏิหาริย์ล่อยลอยไป ผุดขึ้นที่ลำน้ำแม่กลองจังหวัดสมุทรสงครามประชาชนชาวประมงอาราธนาขึ้นได้ หลวงพ่อวัดบ้านแหลม ก็ขอให้แพนั้นจงหยุดอยู่ กับที่
















การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ประวัติหลวงพ่อโสธรวัดโสธรวรารามวรวิหาร ( วัดหลวงพ่อโสธร )หลวงพ่อโสธรอันบุญบารมีอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ใครๆจะปฏิเสธไม่ได้เลยและจะแข่งขันให้เท่าเทียมกันนั้นก็ได้ยากจะมีบ้างก็บางสถานที่บางท่านบางคนทั้งยังเป็นสิ่งที่เหนือเหตุผลของการพิสูจน์ดังที่พระพุทธองค์ตรัสว่าสิ่งมหัศจรรย์นั้นเป็นอจ ินตัยไม่ควรคิดค้นหาเหตุผลความศักดิ์สิทธิ์อภินิหารจะดลบันดาลให้เกิดมีเฉพาะผู้มีบุญวาสนาและผู้เลื่อมใสศรัทธาเชื่อมั่นเท่านั้นหลวงพ่อโสธรองค์หนึ่งที่ทรงอานุภาพศักดิ์สิทธิ์มีอภินิหารเป็นพระพุทธรูปที่ทรงอานุภาพศักดิ์สิทธิ์เป็นมิ่งขวัญของชาวจังหวัดฉะเชิง เทราและเป็นที่รู้จักเคารพบูชาของประชาชนทั้งหลายหลวงพ่อโสธรเป็นพระพุทธรูปที่หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์หน้าตักกว้างประมาณ 1 ศอกเศษปรางค์ขัดสมาธิเพชรแต่ได้เสริมแต่งขึ้นจากเดิมโดยพอกปูนลงลักปิดทองให้เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิหน้าตักกว้าง 3 ศอก 5 นิ้วพระเนตรเนื้อเลียนแ บบพระสมัยลานช้างหรือเรียกกันสามัญว่า ? พระลาว ? ซึ่งพระชนิดนี้มีชื่อว่าวัดหงษ์โดยที่วัดนี้มีเสาใหญ่มีหงษ์เป็นเครื่องหมายติดอยู่กับยอดเสาวัดนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกงด้านทิศตะวันตกสถานที่ตั้งวัดแต่ดั้งเดิมนั้นเวลานี้ถูกน้ำเซาะพังเป็นแม่น้ำไปหมดแล้ววัดนี้ใครเป็นผู้สร้างและสร้างขึ้นในสมัยใดไม่ปรากฏแต่ได้ความว่าเป็นวัดเก่า แก่สร้างมานานแล้วต้นเหตุที่วัดนี้ได้ชื่อว่าโสทรหรือโสธรนั้นเล่ากันว่ากาลต่อมาหงษ์ใหญ่ที่ติดอยู่บนยอดเสานั้นพลัดตกลงมาหักทำลายคงเหลือแต่เสาจึงได้เอาผ้าผืนใหญ่ทำเป็นธงขึ้นไปแขวนไว้บนยอดเสาแทนหงษ์ประชาชนก็เลยเรียกชื่อตามนิมิตเครื่องหมายนั้นว่าวัดเสาธ งนานมาเสาธงนี้ได้ถูกลมพายุพัดหักโค่นลงมาเป็น 2 ท่อนชาวบ้านก็เลยถือเอานิมิตที่เสาธงหักเป็นท่อนนั้นตั้งเป็นชื่อวัดว่า ? วัดเสาทอน ? อยู่สิ้นกาลช้านานจวบจนถึงสมัยที่มีพระพุทธรูป 3 องค์พี่น้องล่องลอยน้ำมาจากเหนือและในจำนวนพระพุทธรูป 3 องค์นั้นได้อาราธนาอัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานไว้ที่วัดนี้ 1 องค์ความหลวงพ่อโส
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: