โครงงานภูมิปัญญาท้องถิ่น (การทำขนมตาล)  บทคัดย่อขนมตาล เป็นขนมไทยแท้ดั การแปล - โครงงานภูมิปัญญาท้องถิ่น (การทำขนมตาล)  บทคัดย่อขนมตาล เป็นขนมไทยแท้ดั ไทย วิธีการพูด

โครงงานภูมิปัญญาท้องถิ่น (การทำขนมต


โครงงานภูมิปัญญาท้องถิ่น (การทำขนมตาล)


บทคัดย่อ

ขนมตาล เป็นขนมไทยแท้ดั้งเดิม และเริ่มหาซื้อรับประทานยากขึ้น ตามจำนวนของต้นตาลที่นับวันจะลดน้อยลงไป ความเด่นของขนมตาล อยู่ที่ความหอมหวลของน้ำคั้นจากผลตาลสุกงอม ความหวานมันที่ได้จาก มะพร้าวขูดเป็นเส้นโรยอยู่หน้าขนม ว่ากันว่าที่ใดมีต้นตาลที่นั่นต้องมี ขนมตาล เพราะต้นตาลเป็นไม้ยืนต้นที่ให้ประโยชน์กับคนไทยมากมาย นับแต่ลูกตาลเนื้อนิ่มใสหวานชื่นใจ ที่จะรับประทานสด ๆ หรือนำไปเชื่อม รับประทานกับน้ำแข็งก็อร่อยไม่แพ้กัน จาวตาล หรือส่วนที่อยู่ด้านใน ของเมล็ดตาลที่แก่จัด เฉาะเอามาเชื่อมกับน้ำตาลก็รับประทานได้ แถมน้ำ หวานที่ได้จากงวงตาลก็นำมาทำน้ำตาลโตนด ที่มีความหอมและหวาน แหลมอย่างที่น้ำตาลทรายก็สู้ไม่ได้ คนไทยนิยมเอามาปรุงอาหารไทย

การทำขนมหวานไทยให้ดี ต้องประกอบด้วยปัจจัยหลายอย่าง คือ ต้องมีใจรัก ชอบทำมีความอดทนตั้งใจมีความพิถีพิถันในการประดิษฐ์ให้ขนมมีรูปร่างที่น่ารับประทาน ขนมหวานไทยบางชนิดต้องฝึกทำหลายๆ ครั้งจึงจะได้ลักษณะที่ดี ประสบการณ์ และความชำนาญในการทำบ่อย ๆ ผู้ประกอบขนมหวานไทย จะประสบความสำเร็จในการทำ


กิตติกรรมประกาศ
โครงงานเล่มนี้จะสำเร็จไปมิได้หากไม่ได้รับความสนับสนุน และคำปรึกษาจาก อาจารย์พรทิพย์ มหันตมรรค และขอขอบพระคุณ คุณปราณี พรหมทอง และผู้ปกครองที่คอยเป็นกำลังใจ จนโครงงานเล่มนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี หากเนื้อหาในโครงงานเล่มนี้มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
บทที่ 1
บทนำ
แนวคิดที่มาและความสำคัญ
สืบเนื่องมาจากมีความชื่นชอบในขนมตาล ซึ่งในปัจจุบันขนมตาลเป็นขนมที่หากินได้ยากและกระบวนการทำส่วนผสมมีความยุ่งยาก ส่วนต้นทุนในการลงทุนสูงแต่ได้กำไรน้อย เพราะส่วนมากในกลุ่มลูกค้าโดยทั่วไปจะเป็นผู้สูงอายุ แต่เด็กวัยรุ่นส่วนใหญ่ไม่นิยมบริโภคขนมตาลเพราะไม่ทราบว่ามันคือขนมอะไร รสชาติเป็นยังไง และรูปลักษณ์การบรรจุภัณฑ์ไม่น่าดึงดูดใจเหมือนขนมขบเคี้ยวทั่วไป จึงทำให้ดิฉันมีความสนใจในการทำโครงงานเรื่องการทำขนมตาลเพื่ออนุรักษ์การทำขนมไทยและเพื่อเป็นประโยชน์ในการประการอาชีพ

วัตถุประสงค์
1.จัดทำขึ้นเพื่ออนุรักษ์และสืบทอดการทำขนมตาล
2.จัดทำขึ้นเพื่อได้รู้วิธีการทำขนมตาล
3.สามารถนำไปเผื่อแพร่ให้กับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับวิธีการทำ
หลักการและทฤษฎี
เนื่องจากเด็กไทยสมัยนี้มีความนิยมจากชาติตะวันตกมากจนเกินไป จนลืมไปความเป็นไทยว่าไทยเราก็มีของดีเยอะมากมาย เช่น เสื้อผ้าการแต่งกาย สถานที่ท่องเที่ยว และอาหารไทย (ขนมตาล) ข้าพเจ้าได้มองเห็นความสำคัญของอาหารไทย(ขนมตาล) จึงได้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลเพื่อที่จะสืบทอดของไทย
ขอบเขตของโครงงาน
1.ศึกษาค้นคว้าจากอินเตอร์เน็ต
2.ศึกษาค้นคว้าจาก คุณปราณี พรหมทอง

สถานที่
ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่
ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.ได้ทำเป็นอาชีพเสริมเพื่อหารายได้เพิ่มขึ้น
2.ได้มีประสบการณ์ในการลงพื้นที่ได้มากขึ้นกว่าเดิม
3.ได้รักษาอรุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นนี้ไว้เพื่อให้เยาวชนรุ่นหลัง
4.ได้ใช้เวลาว่างให้เกินประโยชน์
5.เพื่อนำความรู้ที่ได้รับไปเผยแพร่ให้แก่ผู้ที่สนใจ
6.เพื่อฝึกการทำงานเป็นกลุ่ม
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
จากบทสัมภาษณ์
คุณปราณี พรหมทอง
ขนมตาลเป็นขนมที่มีรสชาติหวาน มัน ขั้นตอนในการทำนั้นมีความยากพอสมควร ปัจจุบันขนมตาลจะหานำมารับประทานนั้นก็ยากขึ้น เพราะวัตถุดิบในการทำเริ่มมีปริมาณลดลง และคนที่ทำขายส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ เด็กวัยรุ่นสมัยใหม่ก็ไม่ค่อยนิยมซื้อไปบริโภค อาจเพราะเหตุว่า เป็นขนมที่ไม่ทันสมัย จึงไม่นิยมบริโภค
วัตถุดิบในการทำ
1. ลูกตาลสุก 2. ข้าวสารเก่า 3. แป้ง 4. น้ำตาลทราย

5. หัวกะทิ 6. มะพร้าวทึกขูดฝอย 7. เกลือป่น
บทที่ 3
วิธีการดำเนินงาน
วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า
การศึกษาครั้งนี้ผู้วิจัยได้ดำเนินการศึกษาค้นคว้าตามลำดับดังต่อไปนี้
1. ขั้นศึกษาข้อมูล
1.1 ขั้นสำรวจและศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง โดยการสำรวจและศึกษาเอกสารที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการทำขนมตาล
1.2 ศึกษาวัตถุดิบและส่วนประกอบการทำขนมตาล
2. ขั้นเก็บรวบรวมข้อมูล
2.1 ได้มีการเก็บรวมรวมข้อมูลจากการสำรวจและศึกษาจากเอกสารที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการทำขนมตาล
2.2 ได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากการได้สังเกต และสัมภาษณ์
3. ขั้นวิเคราะห์ข้อมูล
นำข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้มาศึกษา และวิเคราะห์ตามวัตถุประสงค์และเรียบเรียงนำเสนอในเชิงความเรียง
อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต

1. ลูกตาลสุก
2. ข้าวสารเก่า
3. แป้ง
4. น้ำตาลทราย
5. หัวกะทิ
6. มะพร้าวทึกขูดฝอย
7. เกลือป่น

บทที่ 4
ผลการศึกษา
ขั้นตอนการผลิต
1. อันดับแรกต้องลอกเปลือกลูกตาลออกให้หมด แล้วขูดเอาเนื้อสีเหลืองออก ตัวลูกตาลแช่น้ำไว้จนเนื้อลูกตาลละลายออกหมด ใช้ผ้าห่อเนื้อลูกตาล และน้ำที่ละลายผูกมัดปากรวมไว้ให้แน่นแขวนหรือทับไว้ให้แห้ง

ลูกตาลสุก ล้าง ปอก ขูดเนื้อตาลออก



เนื้อตาลที่ได้ ส่วนเมล็ดตาลนำไปขยำกับน้ำให้เนื้อออกให้



กรองด้วยกระชอน แล้วกรองด้วยถุงผ้าขาวหนา แขวนไว้ให้น้ำตกจนหมด ทำก่อนใช้ 1 คืน

2. โม่ข้าวสารที่แช่น้ำไว้ให้ละเอียด แล้วทับให้แห้ง
3. จากนั้นผสมข้าวสารที่โม่และทับจนแห้งแล้ว รวมกับแป้งท้าวยายม่อม และลูกตาลที่ทับจนแห้งแล้วนวดส่วนผสมทั้งหมด เข้าด้วยกันจนแป้งที่ผสมเนียนและนุ่มมือ(ประมาณ 30-60 นาที)ใส่น้ำตาลสลับกับหัวกะทิ นวดจนหัวกะทิและน้ำตาล ละลายหมด พักไว้ประมาณ 5-10 ชั่วโมง



นำเนื้อตาลที่ได้มานวดกับแป้งแล้วเติมกะทิ(ผสมกับน้ำตาลทรายตั้งไฟให้เดือดพักให้เย็น)



นวดเนื้อลูกตาลกับแป้งข้าวเจ้าให้เข้ากัน แล้วค่อยๆเติมกะทิที่เคี่ยวไว้จนหมด


เมื่อเติมกะทิจนหมดได้ลักษณะดังภาพ ปิดฝาพักไว้ 4-5 ชั่วโมงจนขึ้นฟู (เป็นฟองปุดๆๆ)
4. ขั้นตอนรองสุดท้ายให้ตักแป้งที่ผสมแล้วใส่กระทงหรือถ้วยตะไล โรยมะพร้าว แล้วนึ่งให้สุกยกลงถ้าใส่ถ้วยตะไลรอให้เย็นก่อนแล้วจึงนำออกจากถ้วยจัดใส่ภาชนะ



บทที่ 5
สรุปผลการศึกษา
การวิจัยเรื่องการทำขนมตาล ทำให้ได้รู้ถึงรู้หลักวิธีการทำ และวัฒนธรรมการการอนุรักษ์ของชุมชนในท้องถิ่นภาคใต้อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่สมควรรับการส่งเสริม และอนุรักษ์ตลอดไป
จากการศึกษาพบว่า ขนมตาล เป็นขนมไทยที่นิยมก
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
โครงงานภูมิปัญญาท้องถิ่น (การทำขนมตาล) บทคัดย่อขนมตาลเป็นขนมไทยแท้ดั้งเดิมและเริ่มหาซื้อรับประทานยากขึ้นตามจำนวนของต้นตาลที่นับวันจะลดน้อยลงไปความเด่นของขนมตาลอยู่ที่ความหอมหวลของน้ำคั้นจากผลตาลสุกงอมความหวานมันที่ได้จากมะพร้าวขูดเป็นเส้นโรยอยู่หน้าขนมว่ากันว่าที่ใดมีต้นตาลที่นั่นต้องมีขนมตาลเพราะต้นตาลเป็นไม้ยืนต้นที่ให้ประโยชน์กับคนไทยมากมายนับแต่ลูกตาลเนื้อนิ่มใสหวานชื่นใจที่จะรับประทานสดๆ หรือนำไปเชื่อมรับประทานกับน้ำแข็งก็อร่อยไม่แพ้กันจาวตาลหรือส่วนที่อยู่ด้านในของเมล็ดตาลที่แก่จัดเฉาะเอามาเชื่อมกับน้ำตาลก็รับประทานได้แถมน้ำหวานที่ได้จากงวงตาลก็นำมาทำน้ำตาลโตนดที่มีความหอมและหวานแหลมอย่างที่น้ำตาลทรายก็สู้ไม่ได้คนไทยนิยมเอามาปรุงอาหารไทยการทำขนมหวานไทยให้ดีต้องประกอบด้วยปัจจัยหลายอย่างคือต้องมีใจรักชอบทำมีความอดทนตั้งใจมีความพิถีพิถันในการประดิษฐ์ให้ขนมมีรูปร่างที่น่ารับประทานขนมหวานไทยบางชนิดต้องฝึกทำหลาย ๆ ครั้งจึงจะได้ลักษณะที่ดีประสบการณ์และความชำนาญในการทำบ่อยๆ ผู้ประกอบขนมหวานไทยจะประสบความสำเร็จในการทำ กิตติกรรมประกาศ โครงงานเล่มนี้จะสำเร็จไปมิได้หากไม่ได้รับความสนับสนุนและคำปรึกษาจากอาจารย์พรทิพย์มหันตมรรคและขอขอบพระคุณคุณปราณีพรหมทองและผู้ปกครองที่คอยเป็นกำลังใจจนโครงงานเล่มนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีหากเนื้อหาในโครงงานเล่มนี้มีข้อผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ณที่นี้ด้วยบทที่ 1บทนำแนวคิดที่มาและความสำคัญสืบเนื่องมาจากมีความชื่นชอบในขนมตาลซึ่งในปัจจุบันขนมตาลเป็นขนมที่หากินได้ยากและกระบวนการทำส่วนผสมมีความยุ่งยากส่วนต้นทุนในการลงทุนสูงแต่ได้กำไรน้อยเพราะส่วนมากในกลุ่มลูกค้าโดยทั่วไปจะเป็นผู้สูงอายุแต่เด็กวัยรุ่นส่วนใหญ่ไม่นิยมบริโภคขนมตาลเพราะไม่ทราบว่ามันคือขนมอะไรรสชาติเป็นยังไงและรูปลักษณ์การบรรจุภัณฑ์ไม่น่าดึงดูดใจเหมือนขนมขบเคี้ยวทั่วไปจึงทำให้ดิฉันมีความสนใจในการทำโครงงานเรื่องการทำขนมตาลเพื่ออนุรักษ์การทำขนมไทยและเพื่อเป็นประโยชน์ในการประการอาชีพ วัตถุประสงค์1.จัดทำขึ้นเพื่ออนุรักษ์และสืบทอดการทำขนมตาล2.จัดทำขึ้นเพื่อได้รู้วิธีการทำขนมตาล3.สามารถนำไปเผื่อแพร่ให้กับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับวิธีการทำหลักการและทฤษฎี เนื่องจากเด็กไทยสมัยนี้มีความนิยมจากชาติตะวันตกมากจนเกินไปจนลืมไปความเป็นไทยว่าไทยเราก็มีของดีเยอะมากมายเช่นเสื้อผ้าการแต่งกายสถานที่ท่องเที่ยวและอาหารไทย (ขนมตาล) ข้าพเจ้าได้มองเห็นความสำคัญของอาหารไทย(ขนมตาล)จึงได้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลเพื่อที่จะสืบทอดของไทยขอบเขตของโครงงาน 1.ศึกษาค้นคว้าจากอินเตอร์เน็ต 2.ศึกษาค้นคว้าจาก คุณปราณีพรหมทอง สถานที่ต.ปากน้ำอ.เมืองจ.กระบี่ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ1.ได้ทำเป็นอาชีพเสริมเพื่อหารายได้เพิ่มขึ้น2.ได้มีประสบการณ์ในการลงพื้นที่ได้มากขึ้นกว่าเดิม3.ได้รักษาอรุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นนี้ไว้เพื่อให้เยาวชนรุ่นหลัง4.ได้ใช้เวลาว่างให้เกินประโยชน์5.เพื่อนำความรู้ที่ได้รับไปเผยแพร่ให้แก่ผู้ที่สนใจ6.เพื่อฝึกการทำงานเป็นกลุ่มบทที่ 2เอกสารที่เกี่ยวข้องจากบทสัมภาษณ์คุณปราณีพรหมทอง ขนมตาลเป็นขนมที่มีรสชาติหวานมันขั้นตอนในการทำนั้นมีความยากพอสมควรปัจจุบันขนมตาลจะหานำมารับประทานนั้นก็ยากขึ้นเพราะวัตถุดิบในการทำเริ่มมีปริมาณลดลงและคนที่ทำขายส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุเด็กวัยรุ่นสมัยใหม่ก็ไม่ค่อยนิยมซื้อไปบริโภคอาจเพราะเหตุว่าเป็นขนมที่ไม่ทันสมัยจึงไม่นิยมบริโภควัตถุดิบในการทำ1. ลูกตาลสุก 2 ข้าวสารเก่า 3 แป้ง 4 น้ำตาลทราย 5. หัวกะทิ 6 มะพร้าวทึกขูดฝอย 7 เกลือป่นบทที่ 3วิธีการดำเนินงานวิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า การศึกษาครั้งนี้ผู้วิจัยได้ดำเนินการศึกษาค้นคว้าตามลำดับดังต่อไปนี้1. ขั้นศึกษาข้อมูล1.1 ขั้นสำรวจและศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องโดยการสำรวจและศึกษาเอกสารที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการทำขนมตาล 1.2 ศึกษาวัตถุดิบและส่วนประกอบการทำขนมตาล 2. ขั้นเก็บรวบรวมข้อมูล2.1 ได้มีการเก็บรวมรวมข้อมูลจากการสำรวจและศึกษาจากเอกสารที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการทำขนมตาล2.2 ได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากการได้สังเกตและสัมภาษณ์3. ขั้นวิเคราะห์ข้อมูลนำข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้มาศึกษาและวิเคราะห์ตามวัตถุประสงค์และเรียบเรียงนำเสนอในเชิงความเรียงอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต 1. ลูกตาลสุก 2. ข้าวสารเก่า 3. แป้ง 4. น้ำตาลทราย 5. หัวกะทิ6. มะพร้าวทึกขูดฝอย7. เกลือป่น บทที่ 4ผลการศึกษาขั้นตอนการผลิต1. อันดับแรกต้องลอกเปลือกลูกตาลออกให้หมดแล้วขูดเอาเนื้อสีเหลืองออกตัวลูกตาลแช่น้ำไว้จนเนื้อลูกตาลละลายออกหมดใช้ผ้าห่อเนื้อลูกตาลและน้ำที่ละลายผูกมัดปากรวมไว้ให้แน่นแขวนหรือทับไว้ให้แห้ง ลูกตาลสุกล้างปอกขูดเนื้อตาลออก เนื้อตาลที่ได้ส่วนเมล็ดตาลนำไปขยำกับน้ำให้เนื้อออกให้ กรองด้วยกระชอนแล้วกรองด้วยถุงผ้าขาวหนาแขวนไว้ให้น้ำตกจนหมดทำก่อนใช้ 1 คืน2. โม่ข้าวสารที่แช่น้ำไว้ให้ละเอียดแล้วทับให้แห้ง3. จากนั้นผสมข้าวสารที่โม่และทับจนแห้งแล้วรวมกับแป้งท้าวยายม่อมและลูกตาลที่ทับจนแห้งแล้วนวดส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันจนแป้งที่ผสมเนียนและนุ่มมือ (ประมาณ 30-60 นาที) ใส่น้ำตาลสลับกับหัวกะทินวดจนหัวกะทิและน้ำตาลละลายหมดพักไว้ประมาณ 5-10 ชั่วโมง นำเนื้อตาลที่ได้มานวดกับแป้งแล้วเติมกะทิ(ผสมกับน้ำตาลทรายตั้งไฟให้เดือดพักให้เย็น) นวดเนื้อลูกตาลกับแป้งข้าวเจ้าให้เข้ากันแล้วค่อยๆเติมกะทิที่เคี่ยวไว้จนหมด เมื่อเติมกะทิจนหมดได้ลักษณะดังภาพชั่วโมงจนขึ้นฟูปิดฝาพักไว้ 4-5 (เป็นฟองปุดๆ ๆ)4. ขั้นตอนรองสุดท้ายให้ตักแป้งที่ผสมแล้วใส่กระทงหรือถ้วยตะไลโรยมะพร้าวแล้วนึ่งให้สุกยกลงถ้าใส่ถ้วยตะไลรอให้เย็นก่อนแล้วจึงนำออกจากถ้วยจัดใส่ภาชนะ บทที่ 5สรุปผลการศึกษาการวิจัยเรื่องการทำขนมตาลทำให้ได้รู้ถึงรู้หลักวิธีการทำและวัฒนธรรมการการอนุรักษ์ของชุมชนในท้องถิ่นภาคใต้อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่สมควรรับการส่งเสริมและอนุรักษ์ตลอดไปจากการศึกษาพบว่าขนมตาลเป็นขนมไทยที่นิยมก
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!

โครงงานภูมิปัญญาท้องถิ่น (การทำขนมตาล) บทคัดย่อขนมตาลเป็นขนมไทยแท้ดั้งเดิมและเริ่มหาซื้อรับประทานยากขึ้น ความเด่นของขนมตาล ความหวานมันที่ได้จากมะพร้าวขูดเป็นเส้นโรยอยู่หน้าขนม ขนมตาล นับ แต่ลูกตาลเนื้อนิ่มใสหวานชื่นใจที่จะรับประทานสด ๆ หรือนำไปเชื่อม จาวตาลหรือส่วนที่อยู่ด้านในของเมล็ดตาลที่แก่จัด แถมน้ำ ที่มีความหอมและหวานแหลมอย่างที่น้ำตาลทรายก็สู้ไม่ได้ ต้องประกอบด้วยปัจจัยหลายอย่างคือต้องมีใจรัก ขนมหวานไทยบางชนิดต้องฝึกทำหลาย ๆ ครั้งจึงจะได้ลักษณะที่ดีประสบการณ์และความชำนาญในการทำบ่อย ๆ ผู้ประกอบขนมหวานไทย และคำปรึกษาจากอาจารย์พรทิพย์มหันตมรรคและขอขอบพระคุณคุณปราณีพรหมทองและผู้ปกครองที่คอยเป็นกำลังใจ ไว้ ณ ขออภัยที่นี้ด้วยบทที่ รสชาติเป็นยังไง เช่นเสื้อผ้าการแต่งกายสถานที่ท่องเที่ยวและอาหารไทย (ขนมตาล) ปราณีพรหมคุณคุณทองสถานที่ต. ปากน้ำอ. เมือง มัน เพราะเหตุอาจว่าได้เป็นขนมที่ไม่ทันสมัยจึงไม่นิยมบริโภควัตถุดิบในหัวเรื่อง: การทำ 1 ลูกตาลสุก 2. ข้าวสารเก่า 3. แป้ง 4. น้ำตาลทราย5 6. หัวกะทิมะพร้าวทึกขูดฝอย 7. ป่นเกลือบทที่ ขั้นศึกษาข้อมูล1.1 ขั้นเก็บรวบรวมข้อมูล2.1 และสัมภาษณ์3 ลูกตาลสุก2 ข้าวสารเก่า3 แป้ง4 น้ำตาลทราย5 หัวกะทิ6 มะพร้าวทึกขูดฝอย7 ป่นเกลือบทที่ 4 ผลหัวเรื่อง: การศึกษาเป็นขั้นตอนหัวเรื่อง: การผลิต1 แล้วขูดเอาเนื้อสีเหลืองออก ใช้ผ้าห่อเนื้อลูกตาล ปอกขูดล้างเนื้อตาลออกเนื้อตาลที่ได้ แล้วกรองด้วยถุงผ้าขาวหนาแขวนไว้ให้น้ำตกจนหมดทำก่อนใช้ 1 คืน2 โม่ข้าวสารที่แช่น้ำไว้ให้ละเอียดแล้วทับให้แห้ง3 รวมกับแป้งท้าวยายม่อม 30-60 นาที) ใส่น้ำตาลสลับกับหัวกะทินวดจนหัวกะทิและน้ำตาลละลายหมดพักไว้ประมาณ 5-10 ปิดฝาพักไว้ 4-5 ชั่วโมงจนขึ้นฟู (เป็นฟองปุด ๆ ๆ ) 4 โรยมะพร้าว ทำให้ได้รู้ถึงรู้หลักวิธีการทำ ตลอดอนุรักษ์และไปจากเนชั่หัวเรื่อง: การศึกษาเป็นพบว่าได้ขนมตาลเป็นขนมไทยที่นิยมก





































































































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!

โครงงานภูมิปัญญาท้องถิ่น ( การทำขนมตาล )




บทคัดย่อขนมตาลเป็นขนมไทยแท้ดั้งเดิมและเริ่มหาซื้อรับประทานยากขึ้นตามจำนวนของต้นตาลที่นับวันจะลดน้อยลงไปความเด่นของขนมตาลอยู่ที่ความหอมหวลของน้ำคั้นจากผลตาลสุกงอมความหวานมันที่ได้จากว่ากันว่าที่ใดมีต้นตาลที่นั่นต้องมีขนมตาลเพราะต้นตาลเป็นไม้ยืนต้นที่ให้ประโยชน์กับคนไทยมากมายนับแต่ลูกตาลเนื้อนิ่มใสหวานชื่นใจที่จะรับประทานสดจะหรือนำไปเชื่อมรับประทานกับน้ำแข็งก็อร่อยไม่แพ้กันหรือส่วนที่อยู่ด้านในของเมล็ดตาลที่แก่จัดเฉาะเอามาเชื่อมกับน้ำตาลก็รับประทานได้แถมน้ำหวานที่ได้จากงวงตาลก็นำมาทำน้ำตาลโตนดที่มีความหอมและหวานแหลมอย่างที่น้ำตาลทรายก็สู้ไม่ได้
การทำขนมหวานไทยให้ดีต้องประกอบด้วยปัจจัยหลายอย่างความต้องมีใจรักชอบทำมีความอดทนตั้งใจมีความพิถีพิถันในการประดิษฐ์ให้ขนมมีรูปร่างที่น่ารับประทานขนมหวานไทยบางชนิดต้องฝึกทำหลายๆประสบการณ์และความชำนาญในการทำบ่อยจะผู้ประกอบขนมหวานไทยจะประสบความสำเร็จในการทำ



กิตติกรรมประกาศโครงงานเล่มนี้จะสำเร็จไปมิได้หากไม่ได้รับความสนับสนุนและคำปรึกษาจากอาจารย์พรทิพย์มหันตมรรคและขอขอบพระคุณคุณปราณีพรหมทองและผู้ปกครองที่คอยเป็นกำลังใจจนโครงงานเล่มนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีขออภัยไว้ณที่นี้ด้วย
บทที่ 1


บทนำแนวคิดที่มาและความสำคัญสืบเนื่องมาจากมีความชื่นชอบในขนมตาลซึ่งในปัจจุบันขนมตาลเป็นขนมที่หากินได้ยากและกระบวนการทำส่วนผสมมีความยุ่งยากส่วนต้นทุนในการลงทุนสูงแต่ได้กำไรน้อยเพราะส่วนมากในกลุ่มลูกค้าโดยทั่วไปจะเป็นผู้สูงอายุรสชาติเป็นยังไงและรูปลักษณ์การบรรจุภัณฑ์ไม่น่าดึงดูดใจเหมือนขนมขบเคี้ยวทั่วไปจึงทำให้ดิฉันมีความสนใจในการทำโครงงานเรื่องการทำขนมตาลเพื่ออนุรักษ์การทำขนมไทยและเพื่อเป็นประโยชน์ในการประการอาชีพ
วัตถุประสงค์

1 . จัดทำขึ้นเพื่ออนุรักษ์และสืบทอดการทำขนมตาล
2 จัดทำขึ้นเพื่อได้รู้วิธีการทำขนมตาลสามารถนำไปเผื่อแพร่ให้กับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับวิธีการทำหลักการและทฤษฎี


3เนื่องจากเด็กไทยสมัยนี้มีความนิยมจากชาติตะวันตกมากจนเกินไปจนลืมไปความเป็นไทยว่าไทยเราก็มีของดีเยอะมากมายเช่นเสื้อผ้าการแต่งกายสถานที่ท่องเที่ยวและอาหารไทย ( ขนมตาล )จึงได้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลเพื่อที่จะสืบทอดของไทย
ขอบเขตของโครงงาน
1 ศึกษาค้นคว้าจากอินเตอร์เน็ต
2 ศึกษาค้นคว้าจากคุณปราณีพรหมทอง

สถานที่
ต . ปากน้ำ Admiral เมือง . . . . กระบี่ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

1 . ได้ทำเป็นอาชีพเสริมเพื่อหารายได้เพิ่มขึ้น
2ได้มีประสบการณ์ในการลงพื้นที่ได้มากขึ้นกว่าเดิม
3 ได้รักษาอรุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นนี้ไว้เพื่อให้เยาวชนรุ่นหลัง
4 ได้ใช้เวลาว่างให้เกินประโยชน์
5 เพื่อนำความรู้ที่ได้รับไปเผยแพร่ให้แก่ผู้ที่สนใจ
6เพื่อฝึกการทำงานเป็นกลุ่ม
2

บทที่เอกสารที่เกี่ยวข้องจากบทสัมภาษณ์พรหมทอง

คุณปราณีขนมตาลเป็นขนมที่มีรสชาติหวานมันขั้นตอนในการทำนั้นมีความยากพอสมควรปัจจุบันขนมตาลจะหานำมารับประทานนั้นก็ยากขึ้นเพราะวัตถุดิบในการทำเริ่มมีปริมาณลดลงและคนที่ทำขายส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุอาจเพราะเหตุว่าเป็นขนมที่ไม่ทันสมัยจึงไม่นิยมบริโภค
วัตถุดิบในการทำ
1 ลูกตาลสุก 2 ข้าวสารเก่า 3 แป้ง 4 น้ำตาลทราย

5 หัวกะทิ 6 มะพร้าวทึกขูดฝอย 7 เกลือป่น
3


วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้าวิธีการดำเนินงานบทที่การศึกษาครั้งนี้ผู้วิจัยได้ดำเนินการศึกษาค้นคว้าตามลำดับดังต่อไปนี้
1 1.1 ขั้นสำรวจและศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องโดยการสำรวจและศึกษาเอกสารที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการทำขนมตาลขั้นศึกษาข้อมูล

12 ศึกษาวัตถุดิบและส่วนประกอบการทำขนมตาล
2 2.1 ได้มีการเก็บรวมรวมข้อมูลจากการสำรวจและศึกษาจากเอกสารที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการทำขนมตาลขั้นเก็บรวบรวมข้อมูล

22 ได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากการได้สังเกตและสัมภาษณ์
3 ขั้นวิเคราะห์ข้อมูล

นำข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้มาศึกษาและวิเคราะห์ตามวัตถุประสงค์และเรียบเรียงนำเสนอในเชิงความเรียงอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต

1 ลูกตาลสุก
2ข้าวสารเก่า
3 แป้ง
4 น้ำตาลทราย
5 หัวกะทิ
6 มะพร้าวทึกขูดฝอย
7 เกลือป่น




บทที่ 4 ผลการศึกษาขั้นตอนการผลิต 1อันดับแรกต้องลอกเปลือกลูกตาลออกให้หมดแล้วขูดเอาเนื้อสีเหลืองออกตัวลูกตาลแช่น้ำไว้จนเนื้อลูกตาลละลายออกหมดใช้ผ้าห่อเนื้อลูกตาลและน้ำที่ละลายผูกมัดปากรวมไว้ให้แน่นแขวนหรือทับไว้ให้แห้ง

ลูกตาลสุกล้างปอกขูดเนื้อตาลออกเนื้อตาลที่ได้ส่วนเมล็ดตาลนำไปขยำกับน้ำให้เนื้อออกให้







กรองด้วยกระชอนแล้วกรองด้วยถุงผ้าขาวหนาแขวนไว้ให้น้ำตกจนหมดทำก่อนใช้ 1 คืน

2โม่ข้าวสารที่แช่น้ำไว้ให้ละเอียดแล้วทับให้แห้ง
3จากนั้นผสมข้าวสารที่โม่และทับจนแห้งแล้วรวมกับแป้งท้าวยายม่อมและลูกตาลที่ทับจนแห้งแล้วนวดส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันจนแป้งที่ผสมเนียนและนุ่มมือ ( ประมาณ 30-60 นาที ) ใส่น้ำตาลสลับกับหัวกะทิละลายหมดพักไว้ประมาณ 5-10 ชั่วโมง



นำเนื้อตาลที่ได้มานวดกับแป้งแล้วเติมกะทิ ( ผสมกับน้ำตาลทรายตั้งไฟให้เดือดพักให้เย็น )






นวดเนื้อลูกตาลกับแป้งข้าวเจ้าให้เข้ากันแล้วค่อยๆเติมกะทิที่เคี่ยวไว้จนหมดเมื่อเติมกะทิจนหมดได้ลักษณะดังภาพปิดฝาพักไว้ 4-5 ชั่วโมงจนขึ้นฟู ( เป็นฟองปุดๆๆ )
4ขั้นตอนรองสุดท้ายให้ตักแป้งที่ผสมแล้วใส่กระทงหรือถ้วยตะไลโรยมะพร้าวแล้วนึ่งให้สุกยกลงถ้าใส่ถ้วยตะไลรอให้เย็นก่อนแล้วจึงนำออกจากถ้วยจัดใส่ภาชนะ





สรุปผลการศึกษาบทที่ 5การวิจัยเรื่องการทำขนมตาลทำให้ได้รู้ถึงรู้หลักวิธีการทำและวัฒนธรรมการการอนุรักษ์ของชุมชนในท้องถิ่นภาคใต้อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่สมควรรับการส่งเสริมและอนุรักษ์ตลอดไป
จากการศึกษาพบว่าขนมตาลเป็นขนมไทยที่นิยมก
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: