The paper presents a cradle-to-gate

The paper presents a cradle-to-gate life cycle assessment of production of ammonia using wind power. The ammonia is intended to substitute for nitrogen fertilizer produced from fossil resources. The studied system is designed to supply a rural community with fertilizer based on renewable energy and is, therefore, smaller than industrial fossil ammonia production systems. Two contrasting cases examine the impact of the location of the system, investigating the dependence on the regional energy system (background system) to balance demand and supply of energy in the ammonia production system (foreground system). The results show that wind-based ammonia production can significantly decrease fossil energy inputs and greenhouse gas emissions compared to conventional production, but that the use of energy from the background system severely impacts the environmental performance, especially in regions where fossil fuels dominate the energy system.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กระดาษนำเสนอการประเมินวัฏจักรชีวิตอู่ประตูผลิตแอมโมเนียที่ใช้พลังงานลม แอมโมเนียมีวัตถุประสงค์เพื่อแทนปุ๋ยไนโตรเจนผลิตจากฟอสซิล ระบบ studied ถูกออกแบบมาเพื่อใส่ชุมชนชนบทกับปุ๋ยที่ใช้พลังงานทดแทน และ เป็น ดังนั้น ขนาดเล็กกว่าระบบผลิตแอมโมเนียอุตสาหกรรมฟอส สองกรณีบริการตรวจสอบผลกระทบของตำแหน่งที่ตั้งของระบบ ตรวจสอบพึ่งระบบพลังงานภูมิภาค (พื้นหลังระบบ) ดุลอุปสงค์และอุปทานของพลังงานในระบบการผลิตแอมโมเนีย (ระบบเบื้องหน้า) ผลลัพธ์แสดงว่าแอมโมเนียตามลมผลิตมากสามารถลดพลังงานฟอสซิอินพุตและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเมื่อเทียบกับการผลิตแบบดั้งเดิม แต่ว่า การใช้พลังงานจากระบบพื้นหลังอย่างรุนแรงส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมประสิทธิภาพการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคที่เชื้อเพลิงฟอสซิลครองระบบพลังงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กระดาษที่มีการจัดอู่ต่อประตูการประเมินวงจรชีวิตของการผลิตของแอมโมเนียโดยใช้พลังงานลม แอมโมเนียมีจุดมุ่งหมายเพื่อทดแทนการผลิตปุ๋ยไนโตรเจนจากแหล่งฟอสซิล ระบบการศึกษาได้รับการออกแบบเพื่อจัดหาชุมชนชนบทกับปุ๋ยอยู่บนพื้นฐานของพลังงานหมุนเวียนและจึงมีขนาดเล็กกว่าฟอสซิลระบบการผลิตแอมโมเนียอ​​ุตสาหกรรม ทั้งสองกรณีตัดกันตรวจสอบผลกระทบของสถ​​านที่ตั้งของระบบการสืบสวนการพึ่งพาระบบพลังงานระดับภูมิภาค (ระบบพื้นหลัง) เพื่อความสมดุลของอุปสงค์และอุปทานของพลังงานในระบบการผลิตแอมโมเนีย (ระบบหน้า) ผลการศึกษาพบว่าการผลิตแอมโมเนียลมตามอย่างมีนัยสำคัญสามารถลดปัจจัยการผลิตพลังงานฟอสซิลและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเมื่อเทียบกับการผลิตแบบเดิม แต่ที่ใช้พลังงานจากระบบพื้นหลังผลกระทบอย่างรุนแรงดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคท​​ี่เชื้อเพลิงฟอสซิลครองระบบพลังงาน .