Jeremy lived out on Coney Island wi

Jeremy lived out on Coney Island with his mother, father, and sister Cleo. He'd inhaled the smell of the ocean since the day he was born, and there was nothing in the world he liked better than to go for a walk on the beach.

Rain or shine, Jeremy hit the beach every day. He watched ships in the distance, listened to the waves, buoy-bells and foghorns, felt the sand and water on his feet and dreamed about sailing. Beach walks always made him hungry, and what Jeremy liked to eat was fish. In fact, anything that came out of the sea was just fine.

One day, after a particularly excellent walk, during the course of which he'd seen a three-masted schooner go by and a horseshoe crab wandering around at the shoreline, Jeremy went home and was delighted to see that his mother had bought lobsters for dinner. They were on the kitchen counter, still alive, wriggling their legs and antennae. Jeremy inspected them. He was seriously hungry and wanted to reserve the biggest one for himself. One of the lobsters was quite a bit bigger than the others. Its shell was almost black. Jeremy picked it up and looked into its beady little lobster eyes.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เจเรมีชีวิตอย่างบน Coney เกาะกับมารดา บิดา และน้องสาวคลีโอ เขาได้สูดดมกลิ่นของทะเลตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา และมีอะไรในโลกที่เขาชอบได้ดีกว่าการไปเดินเล่นบนชายหาด ฝน เจเรมีชายหาดทุกวัน เขาเฝ้าดูเรือในระยะไกล ฟังคลื่น ระฆังทุ่น และ foghorns รู้สึกว่าหาดทรายและน้ำบนเท้าของเขา และฝันเกี่ยวกับเรือใบ เดินริมหาดจะทำให้เขาหิว และก็อะไรที่เจเรมีชอบกินปลา ในความเป็นจริง สิ่งที่มาจากทะเลไม่ได้ดี วันหนึ่ง หลังจากเดินเยี่ยมโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงที่เขาได้เห็นมุ่งหน้าไปที่สาม masted ไปด้วย และเป็นแมงดาเดินที่ชายฝั่ง เจเรมีกลับบ้าน และมีความยินดีที่เห็นว่า แม่ของเขาได้ซื้อกุ้งก้ามกรามสำหรับมื้อค่ำ อยู่บนเคาน์เตอร์ครัว ชีวิตยังคง wriggling ขาและหนวดของพวกเขา เจเรมีตรวจสอบพวกเขา เขาหิวอย่างจริงจัง และต้องการจองห้องพักหนึ่งใหญ่ที่สุดสำหรับตัวเอง กล็อบสเตอร์อย่างใดอย่างหนึ่งคือค่อนข้างที่ใหญ่กว่าคนอื่น ๆ เปลือกของมันเป็นสีดำเกือบ เจเรมีรับ และมองเข้าไปในตาของกุ้งน้อย beady

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เจเรมีชีวิตอยู่ออกมาบนเกาะโคนีย์กับแม่พ่อและน้องสาวคลีโอ เขาต้องการสูดดมกลิ่นของทะเลตั้งแต่วันที่เขาเกิดมาก็ไม่มีอะไรในโลกที่เขาชอบดีกว่าจะไปเดินเล่นบนชายหาด a. ฝนหรือเงาเจเรพักผ่อนบนชายหาดทุกวัน เขาเฝ้ามองเรือในระยะทางที่ฟังเสียงคลื่นทุ่น-bells และ foghorns รู้สึกทรายและน้ำบนเท้าของเขาและฝันเกี่ยวกับการแล่นเรือใบ หาดเดินทำเสมอเขาหิวและสิ่งที่เจเรมีชอบที่จะกินเป็นปลา ในความเป็นจริงสิ่งที่ออกมาจากทะเลเป็นเพียงแค่ปรับ. วันหนึ่งหลังจากที่เดินที่ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เขาไม่เคยเห็นเรือใบสามเสากระโดงไปด้วยและปูเกือกม้าที่เดินไปรอบ ๆ ชายฝั่งเจเรมี กลับบ้านและยินดีที่ได้เห็นว่าแม่ของเขาได้ซื้อกุ้งก้ามกรามสำหรับอาหารค่ำ พวกเขาอยู่บนเคาน์เตอร์ในห้องครัวยังมีชีวิตอยู่, บิดตัวไปมาขาและหนวดของพวกเขา เจเรมีการตรวจสอบพวกเขา เขาเป็นคนที่หิวอย่างจริงจังและต้องการที่จะขอสงวนหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดสำหรับตัวเอง หนึ่งในกุ้งก้ามกรามได้ค่อนข้างบิตใหญ่กว่าคนอื่น ๆ เปลือกเป็นสีดำเกือบ เจเรมีหยิบมันขึ้นมาและมองเข้าไปในดวงตาวาวเล็ก ๆ น้อย ๆ ของมันกุ้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เจเรมี่ อาศัยอยู่บนเกาะโคนีย์กับแม่ พ่อ และน้องสาว คลีโอ เขาสูดดมกลิ่นของทะเล ตั้งแต่เค้าเกิดมา ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่เขาชอบ ดีกว่าที่จะไปเดินเล่นบนชายหาดฝนตกแดดออก เจเรมี่ ตีชายหาดทุกวัน เขายืนดูเรืออยู่ไกล ฟังคลื่นระฆังทุ่นลอย foghorns , รู้สึกว่าทรายและน้ำบนเท้าของเขาและฝันเกี่ยวกับการแล่นเรือใบ ชายหาดเดินเสมอทำให้เขาหิวแล้วเจเรมี่ชอบกินปลา ในความเป็นจริง สิ่งที่ออกมาจากทะเลดีวันหนึ่ง หลังจากเดินที่ยอดเยี่ยมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างที่เขาต้องการเห็น สามกระโดงเรือไป และแมงดา วนเวียนอยู่ที่ชายฝั่ง เจเรมี่ กลับบ้าน และดีใจมากที่เห็นแม่ของเขาได้ซื้อกุ้งมังกร สำหรับมื้อค่ำ พวกเขาบนเคาน์เตอร์ครัว ยังมีชีวิตอยู่ การบิดตัว ขา และหนวด . เจเรมี่ ตรวจสอบพวกเขา เขาก็กำลังหิวและต้องการสำรองที่ใหญ่ที่สุดสำหรับตัวเอง หนึ่งของกุ้งมังกรค่อนข้างจะใหญ่กว่าคนอื่น เปลือกของมันเกือบจะเป็นสีดำ เจเรมี่ หยิบมันขึ้นมา และมองเป็นบ่องกุ้งมังกรน้อยตา